×

อภิสิทธิ์จี้ประยุทธ์ ส่งสัญญาณแก้ขัดแย้งให้ชัดเจน รวมถึงข้อเสนอปฏิรูปสถาบันฯ ชี้ 17-18 พ.ย. นี้ ด่านแรกแก้ รธน.

โดย THE STANDARD TEAM
13.11.2020
  • LOADING...
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

วันนี้ (13 พฤศจิกายน) ในงานเสวนา ‘บทบาทรัฐสภาในการโหวตแก้รัฐธรรมนูญ 7 ญัตติ กับจุดเปลี่ยนประเทศไทย’ ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ที่มาโครงสร้างอดีตนายกรัฐมนตรีที่จะเข้าไปแก้ปัญหาในระยะยาวว่า เท่าที่ตนทราบ ประธานรัฐสภาได้สอบถามและขอความร่วมมือกับอดีตนายกรัฐมนตรีหลายคนในเบื้องต้น แต่ยังไม่มีการยืนยันในการตั้ง ซึ่งทราบจากข่าวว่าจะใช้รูปแบบตามที่สถาบันพระปกเกล้าเสนอ โดยเห็นว่าเป็นไปได้ยากที่จะเชิญกรรมการจากทุกฝ่ายเข้าร่วมได้ โดยเฉพาะผู้ชุมนุม ซึ่งสิ่งสำคัญคือการแก้ปัญหามากกว่าการตั้งคณะกรรมการ หากกรรมการจะมีส่วนในการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ จำเป็นต้องพิจารณาข้อเรียกร้องให้ครบถ้วน และต้องให้ความมั่นใจว่า หากมีการตั้งกลไกนี้มาแล้ว จะสามารถส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหรือข้อสรุปในทางปฏิบัติ ย้ำว่าเป็นภาระหนักของประธานรัฐสภาในการดำเนินการ แต่เห็นว่าปัญหาที่คนคาดหวังให้คลี่คลายสถานการณ์ทางการเมือง กลไกอาจไม่ใช่รูปแบบคณะกรรมการคนนอก โดยอาจเป็นการเสนอทางออกในอนาคต ชี้ว่าการคลายสถานการณ์เป็นหน้าที่ผู้มีอำนาจ เริ่มด่านแรกจากวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ ในการแก้รัฐธรรมนูญว่าจะมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดได้อย่างไร

 

ส่วนข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออก เป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี และยังไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าจะเป็นเช่นนั้น หรือการยุบสภายังไม่ได้เป็นทางออกของปัญหา เพราะจะเป็นกติกาเดิมและวนลูปสถานการณ์ โดยยังเห็นว่าข้อเรียกร้องยังสวนทางกับแนวทางการแก้ไขให้ดีขึ้น  

 

อภิสิทธิ์ยังย้ำว่า ต้องการเห็นนายกรัฐมนตรีและแกนนำรัฐบาลในการส่งสัญญาณชัดเจน หลังจากมีข้อเรียกร้องที่ชัดเจนเรื่องกติกาจากคนในสังคม ที่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรม และเป็นประชาธิปไตยแบบสากล ไม่ได้กระทบรูปแบบของรัฐ ซึ่งยังมีความสับสนในการแก้รัฐธรรมนูญจากสัญญาณที่รัฐบาลส่งมา จากกรณีที่มีการขอมติรัฐสภายื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ ขณะเดียวกัน ในการลงมติรับหลักการในวันที่ 17 และ 18 พฤศจิกายนนี้ ก็ไม่มีอะไรยืนยันว่าจะผ่านทุกร่างตามที่หลายฝ่ายคาดหวัง

 

ขณะเดียวกัน ในส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรียังไม่มีการลดช่องว่างของแต่ละฝ่าย เช่น ข้อเรียกร้องการปฏิบัติต่อประชาชนที่ยังมีปัญหาเรื่องของคดีความต่อแกนนำผู้ชุมนุม ที่นับวันมีแต่สะสม สับสน ซับซ้อนมากขึ้น

 

ส่วนข้อเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ยังไม่มีสัญญาณใดว่ามีความพยายามที่จะนำเรื่องนี้ออกมาจากความขัดแย้งอย่างไร ปล่อยไปตามที่เป็นอยู่จนมีอารมณ์รุนแรงมากขึ้นทั้งสองฝ่าย ซึ่งไม่เป็นผลดี และไม่เป็นผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และย้ำว่าหากทุกฝ่ายต้องการกติกาใหม่ จะต้องร่วมกันผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว 

 

ส่วนเรื่องอื่นที่เป็นข้อขัดแย้ง ให้เน้นที่สาระ เพราะแม้นายกรัฐมนตรีไม่ลาออก การดำเนินการเช่นนี้จะส่งผลให้การเมืองผ่อนคลาย โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญ หากนายกรัฐมนตรีช่วยออกแรง จะสามารถทำให้ผ่านได้  

 

“หากสถานการณ์ไปไกล ยังไม่คลี่คลาย รวมทั้งนายกฯ ยังไม่ลาออก จนมีม็อบชนม็อบ จะทำให้มีความเสี่ยงเกิดความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และหากยิ่งช้า การแก้ปัญหาก็ยิ่งจะมากขึ้น เนื่องจากจะมีปมความขัดแย้งใหม่” อภิสิทธิ์กล่าวในที่สุด

 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising