A Star Is Born เมื่อเราเลือกที่จะดื่มเพื่อหนี

จะมีหนังบางเรื่อง ที่หนังจบแต่เรายังไม่จบ เป็นหนังที่มีพลังบางอย่างในการขับเคลื่อนเซลล์สมอง ให้อยากค้นหาแง่มุมต่างๆ ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง เกร็ดสาระความรู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงซาวด์แทร็กที่จะถูกเปิดซ้ำๆ กระทบเยื่อแก้วหูวนไปมา เพื่อทวนความทรงจำและความรู้สึกที่เกิดขึ้นในแต่ละฉาก

A Star Is Born เป็นหนึ่งในหนังเหล่านั้นสำหรับหมอ

หนังมีหลายแง่มุมชวนให้ประทับใจและคิดต่อยอด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงที่เป็นธรรมชาติของทั้ง แบรดลีย์ คูเปอร์ และเลดี้กาก้า การถ่ายทำที่สวยเหงาแบบไม่ต้องพยายาม ฉายให้รู้สึกถึงความอบอุ่นในความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยวเหงาของชีวิตศิลปิน รวมถึงเพลงประกอบที่เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟัง และยังฟังซ้ำๆ ได้อีกหลายครั้งโดยไม่เบื่อ

แต่มีแง่มุมหนึ่งที่กระตุกต่อมความเป็นหมอให้ชวนคิดต่อ (คำเตือน: ข้อความต่อไปนี้มีสปอยล์) คือปัญหาการติดเหล้าของ แจ็กสัน เมน นักร้องสายคันทรีที่ผ่านกราฟขาขึ้นของชีวิตการทำงานไปแล้ว แต่สำหรับปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ ยังคงเป็นกราฟขาขึ้นที่ดูจะไม่มีที่สิ้นสุด จนนำไปสู่ปัญหาในหน้าที่การงาน และปัญหาความสัมพันธ์ที่ตามมา ซึ่งเป็นคลาสสิกเคสของคนติดสุรา

แบรดลีย์ คูเปอร์ ต้องแต่งหน้าและหยอดตาให้แดงก่ำเหมือนคนเมากึ่มในหลายฉาก ซึ่งหากภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 15 ปีก่อน คูเปอร์คงไม่ต้องอาศัยช่างแต่งหน้าช่วยมากนัก เพราะเขาเองก็เคยมีปัญหาติดสุราและยาเสพติดเช่นกัน

“If I continued drinking, I was going to sabotage my whole life I would never be sitting here with you, no way, no chance, I wouldn’t have been able to have access to myself or other people, or even been able to take in other people, if I hadn’t changed my life. No way. I never would have been able to have the relationships that I do.”

คูเปอร์เคยให้สัมภาษณ์ไว้ ถึงปัญหาจากการดื่มที่เคยเกิดกับเขา ส่งผลให้เขายอมรับว่าติดสุรา ดึงตัวเองออกจากวังวนของการดื่ม แล้วเข้ารับการรักษา แต่คนส่วนใหญ่ที่ดื่มจนถึงขั้นติดสุรา ไม่ยอมรับว่าเป็นปัญหาเหมือนคูเปอร์ โดยเฉพาะในคนเจนวาย ที่มีแนวโน้มจะดื่มแบบ ‘Binge Drink’ คือดื่มหนักในเวลาอันสั้นเพื่อให้เมาอย่างรวดเร็ว มากกว่าเจนเอ็กซ์หรือเบบี้บูมเมอร์

สำหรับคนเจนวายแล้ว เบียร์สื่อถึงความ Young, Social, Euphoric, Happy ในขณะที่ไวน์สื่อถึง Pleasure, Quality, Comfortable ดังนั้นไม่ว่าจะอยากเข้าสังคม อารมณ์ดี มีความสุข หรือสบายใจ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ดูจะเป็นทางเลือกของคนเจนวายจำนวนไม่น้อย เมื่อวิจัยลึกลงไปอีกพบว่า คนเจนวายหลายคนดื่มเพื่อให้เมา และ ‘Escape’ หรือหนีจากอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในชีวิต ตัวตน หรือสภาวะที่จำทนอยู่ โดยไม่คิดว่าการดื่มนั้นเป็นปัญหากับสุขภาพกาย หรือสะท้อนถึงปัญหาสุขภาพใจที่กระตุ้นให้อยากดื่ม ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วผู้ดื่มที่ถึงขั้นติดสุราจะใช้เวลาราว 10 ปีกว่าจะรู้ตัวว่าควรเข้ารับการรักษา ส่งผลให้หนึ่งทศวรรษในชีวิตเสียไปกับการดื่มแอลกอฮอล์ (Lost Decade Theory)

ไม่อาจรู้ได้ว่า แจ็กสัน เมน เลือกที่จะดื่มเพื่อความรื่นรมย์ ดื่มเพราะความคุ้นชิน ดื่มเพื่อหลีกหนีจากโลกแห่งความเป็นจริงที่พบว่าเขากำลังอยู่ในช่วงขาลงของชีวิต หรือดื่มเพียงเพราะสมองต้องการแรงกระตุ้นให้หลั่งโดพามีนมาหล่อเลี้ยงความรู้สึกดีในใจในแบบที่คนติดสุราคุ้นเคยและเรียกร้องอย่างไม่เคยเพียงพอ…

Tell me somethin’, girl

Are you happy in this modern world?

Or do you need more?

Is there somethin’ else you’re searchin’ for?

Tell me something, boy

Aren’t you tired tryin’ to fill that void?

Or do you need more?

Ain’t it hard keeping it so hardcore?

อ่านเรื่อง Bradley Cooper จากบทเล็กๆ ใน Sex and the City สู่การกำกับ A Star Is Born พระเอกฮอลลีวูดที่ไม่ได้มีแค่ผมสีบลอนด์และตาสีฟ้า ได้ที่นี่

ภาพ: Courtesy of Warner Bros. Pictures

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: