หากมองด้วยระดับสายตา อาคารไม้ 2 หลังที่เชื่อมติดกันเป็นแนวยาวคงเป็นบ้านชั้นเดียวที่ด้านหนึ่งโอบด้วยขุนเขาและอีกด้านหนึ่งคือทุ่งนาสีเขียวสุดลูกหูลูกตา จนเมื่อเปิดประตูเข้าไปจึงพบว่า ลึกลงไปใต้ชั้นดินคือห้องอัดเสียงมาตรฐานที่มีทั้งห้องร้องและกีตาร์หลายสิบตัวเรียงแน่นขนัด
นี่คือบ้านของ โจ้-สาโรจน์ ยอดยิ่ง หรือที่หลายคนรู้จักเขาในนาม ‘เขียนไขและวานิช’ ผู้ทำให้กระแสเพลงโฟล์กอย่าง แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร กลายเป็นเพลงติดปากของคนทั่วประเทศ
โจ้ สาโรจน์ เกิดและเติบโตที่จังหวัดเชียงใหม่ อาศัยอยู่กับครอบครัวในบ้านไม้ เรียนและทำงานเกี่ยวกับศิลปะ ตั้งแต่การทำภาพพิมพ์จนถึงเป็นคนเฝ้าแกลเลอรี
ในช่วงเวลานั้นเองมีคอมมูนิตี้เล็กๆ ในหมู่คนทำงานศิลปะท้องถิ่น ทั้งการแลกผลงาน มุมมองความคิด จนถึงการนึกสนุกอย่างการเอาเพลงที่แต่งเองมาแบ่งปันกันฟัง และนั่นคือต้นกำเนิดเพลงของเขียนไขและวานิช โดยชื่อที่ใช้ในงานเพลงได้แรงบันดาลใจจากเทคนิคการทำซิลก์สกรีน
ระหว่างที่เขาออกเดินทางทำงานศิลปะทั้งที่พัทยา ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ตามคำชักชวนของเพื่อน เขาก็ยังคงทำเพลงโฟล์กบรรยากาศเชียงใหม่ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับความหมายของชีวิตอย่างสม่ำเสมอ ชื่อของเขียนไขและวานิชจึงเริ่มเป็นที่รู้จัก จากคนกลุ่มเล็กๆ เริ่มมีผู้ติดตามมากขึ้น จนเพลง แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร ที่เขาอัปโหลดไว้ก่อนหน้านั้นหลายปีกลับมาได้รับความนิยม จนทำให้เพลงอื่นๆ อย่าง หนีห่าง, ภาพฝันในจักรวาล, จะพัก ฯลฯ เป็นที่รู้จักตามมา ชื่อของเขียนไขและวานิชจึงถูกจดจำในฐานะนักร้อง นักแต่งเพลง
การเดินทางทั่วประเทศทำให้เขาเริ่มมีรายได้เพียงพอที่จะหาที่สักผืน ที่จะตอบคำถามว่าการออกไปตามที่ต่างๆ นั้นมีที่ไหนให้เขา ‘กลับ’ โจ้และบลูจึงเริ่มตระเวนหาที่ดินทั่วเชียงใหม่เพื่อลงหลักปักฐาน ทั้งคู่ใช้เวลาเกือบปีจนเริ่มถอดใจ แต่แล้วกลับไปสะดุดตากับที่แปลงยาวติดภูเขาในอำเภอแม่ออนที่ขนาบข้างด้วยทุ่งนา และในที่สุดบ้านหลังนี้จึงเกิดขึ้น
โจ้และบลูแบ่งบ้านเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือที่อยู่อาศัย ประกอบด้วยชานไม้เปิดโล่งที่ทำจากไม้เก่าเพื่อความกลมกลืนกับบรรยากาศโดยรอบ และยังแสดง ‘สัจจะวัสดุ’ ที่โดนแดดและฝน ผุพังตามกาลเวลา และต้องคอยเปลี่ยนแผ่นใหม่อยู่เสมอ ตัวชานไม้ออกแบบเป็นลานกว้างให้เพียงพอสำหรับเพื่อนมาสังสรรค์ โดยได้แรงบันดาลใจจากบ้านหลังแรกที่เคยอาศัยในวัยเด็ก
ถัดจากชานไม้คือห้องครัวซึ่งเป็นพื้นที่เก็บถ้วยชามเซรามิกและงานฝีมือของบลู ตัวอาคารมุงด้วยกระเบื้องท้องถิ่นเพิ่มความเย็นให้ตัวบ้าน หากแต่ลึกลงไปชั้นใต้ดิน โจ้สร้างเป็นสตูดิโอทำเพลงเล็กๆ สำหรับคิดงานและสร้างสรรค์ โดยมีดินด้านข้างซับเสียงได้อย่างดี พร้อมใช้เก็บกีตาร์ที่เขาสะสม
ส่วนที่สองคือสตูดิโอทำงานศิลปะและงานฝีมือ ตัวสตูดิโอสร้างบนเนินดินที่ตักออกจากบ้านส่วนแรก โดยตั้งใจให้สตูดิโอภาพพิมพ์อยู่ห่างจากบ้านเล็กน้อยเพื่อป้องกันกลิ่นสารเคมี ทั้งคู่อยากให้โฮมสตูดิโอแห่งนี้เป็นที่ผลิตงานศิลปะที่พวกเขารัก และใช้เป็นที่พักใจจากการเดินทางแสดงคอนเสิร์ต
แม้ว่าวันนี้ชีวิตเขียนไขและวานิชยังคงเดินทาง ยังอยู่อพาร์ตเมนต์ที่กรุงเทพฯ เป็นหลัก แต่บ้านหลังนี้เปรียบเหมือนหนึ่งคำตอบว่าที่เขาเดินทาง ปลายทางแห่งความสุขอยู่ที่ไหน
ติดตามการตามหาคำตอบของชีวิตและที่พักใจของเขียนไขและวานิชได้ในรายการ HOW DO YOU LIVE? ทาง YouTube ของ THE STANDARD LIFE คลิกชมได้ที่: YouTube