วันนี้ (22 ตุลาคม) พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมภายหลังผู้ต้องหาคดี ดิไอคอนกรุ๊ป ถูกปฏิบัติเหมือนนักโทษ แต่ปัจจุบันยังเป็นผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการฝากขังว่า เราต้องยอมรับขีดจำกัด เพราะเรือนจำมี 143 แห่ง บรรจุผู้ต้องขังได้ 200,000 คน แต่ปัจจุบันมีเกือบ 300,000 คน เราก็ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบ ซึ่งตอนนี้ทั้งหมดยังไม่ได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ เป็นการเฝ้าดูอาการตามระเบียบ หลังจากนั้นทัณฑสถานหญิงกลางและเรือนจําพิเศษกรุงเทพฯ ทั้งสองเรือนจำจะมีที่คุมขังผู้ต้องขังที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี เช่น คดีดิไอคอนกรุ๊ปจะไม่ตัดผมผู้ต้องหา สามารถพบทนายและญาติเพื่อเตรียมต่อสู้คดี ขอย้ำว่าเป็นการปฏิบัติเหมือนกันทุกคน ทั้งนี้ให้นโยบายไปว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีที่มีประมาณ 70,000 คน อยู่รวมกับผู้ต้องขังเด็ดขาด ซึ่งกรมราชทัณฑ์กำลังดำเนินการอยู่
เมื่อถามว่า มีการเปรียบเทียบกระบวนการยุติธรรมคดีที่ประชาชนถูกกล่าวหาเดินหน้าได้ไว กับคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐถูกกล่าวหาอย่างคดีตากใบเดินหน้าช้า จนถูกมองว่าสองมาตรฐานนั้น พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ถือเป็นความรู้สึกของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องชี้แจง จะเห็นว่าหลังปี 2567 เราทำคดีตากใบมา 3 เดือน ถือว่าไม่ล่าช้า
ส่วนกรณีนักการเมือง ส. ที่พูดคุยกับบุคคลที่ถูกเรียกว่าเป็นเทวดา และเผยแพร่คลิปจะดำเนินการและเอาผิดได้อย่างไร พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า คดีดิไอคอนกรุ๊ปเป็นของตำรวจที่กำลังดำเนินการอยู่และสามารถทำได้ดี คดีในลักษณะนี้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอาญา เราจะดำเนินการให้ไร้รอยต่อในเรื่องของการฟอกเงิน ซึ่งสุดท้ายปลายทางเราเป็นห่วงผู้เสียหาย หากสามารถติดตามทรัพย์สินกลับคืนมาได้มากเท่าไร จะทำให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยา
ส่วนประเด็นระหว่างทางจะฟ้องดำเนินคดี พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า การให้ข้อมูลยิ่งเปิดเผยยิ่งเป็นข้อดี เพราะกระทรวงยุติธรรม หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เรากำลังพัฒนาให้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญให้ได้ ซึ่งต้องมีความสามารถในการค้นหาความจริง โดยเฉพาะผู้บงการ ผู้ใช้ ผู้จ้าง ผู้วาน หรือผู้ได้รับผลประโยชน์ เราไม่ควรปล่อยปละละเลย พวกนี้จะต้องดำเนินการภายใต้กฎหมาย
ปัดร่วมวงถกทักษิณ-พรรคร่วม เผยอยู่กับวันนอร์ก่อนมีสายเข้า
พ.ต.อ. ทวี ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับพิจารณาคำร้องยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากเหตุ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำ ว่าไม่มีข้อเท็จจริงตามที่เขากล่าวอ้าง ส่วนประเด็นที่ว่าครอบงำคงไม่ใช่ เพราะทุกพรรคที่มาร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่ก่อนจะเลือกนายกรัฐมนตรี เราก็มาประชุมกัน แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นเราคาดไม่ถึงว่า เศรษฐา ทวีสิน จะหลุดเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และในฐานะที่เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็มีการพบปะคุยกัน และไม่มีใครมาชี้นำหรือมาครอบงำ เพราะทุกอย่างมีกฎหมายล็อกเอาไว้หมด
เมื่อถามถึงที่ก่อนหน้านี้ทักษิณเชิญทุกพรรคไปพูดคุยหรือไปหากันเอง พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ส่วนตัวตนไม่ทราบถึงประเด็นนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ตนจะอยู่กับ วันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตหัวหน้าพรรคประชาชาติ และหลังจากนั้นก็มีคนโทรมา