กลายเป็นประเด็นให้ประเทศต่างๆ ที่ส่งออกขยะเพื่อนำไปทิ้งในประเทศอื่นๆ ต้องกุมขมับไปตามๆ กัน หลังประเทศพี่ใหญ่ที่นำเข้าขยะอย่างจีนประกาศยุติการนำเข้าขยะแล้วเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา มาตรการดังกล่าวส่งผลให้สหรัฐเมริกา อังกฤษ เยอรมนี รวมถึงประเทศอื่นๆ ต้องเร่งหามาตรการเตรียมรับมือปัญหาขยะล้นประเทศ เนื่องจากไม่มีที่ระบาย
ทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยจอร์เจียประเมินผลกระทบของมาตรการยุติการนำเข้าขยะของจีน โดยคำนวณจากปริมาณขยะที่จีนนำเข้าทั้งหมดตั้งแต่ปี 1988 จนถึงปี 2016 คาดว่าจะเกิดกองขยะตกค้างไม่มีที่ไปมากถึง 111 ล้านตันภายในปี 2030 นี้
นับตั้งแต่ปี 1988 เป็นต้นมา ขยะพลาสติกเกือบครึ่งโลก ไม่ว่าจะเป็นกระป๋องน้ำอัดลม บรรจุภัณฑ์ห่ออาหาร หรือถุงพลาสติกต่างๆ ล้วนถูกส่งมายังประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกแห่งนี้ ซึ่งมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ส่งขยะพลาสติกมากกว่า 10 ล้านตันไปยังจีนตลอด 30 ปีที่ผ่านมา มาตรการที่เกิดขึ้นกำลังท้าทายระบบการจัดการขยะของสหรัฐฯ หลังจากหลายพื้นที่ในประเทศกลายเป็นลานขยะเรียบร้อยแล้ว
เอมี บรูกส์ นักศึกษาด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยจอร์เจีย ระบุว่า “การจัดการและแก้ไขปัญหาขยะจำเป็นต้องใช้พลังงาน ซึ่งพลังงานต่างๆ ล้วนมีต้นทุน และประเทศอย่างสหรัฐฯ ก็ไม่ยินดีที่จะใช้จ่ายเพื่อสิ่งนี้ มันอาจจะง่ายกว่าที่จะปาขยะใส่เรือและส่งมันไปอยู่ประเทศอื่นแทนที่จะดีลกับมันที่นี่”
ทางด้าน แดเนียล ฮอร์นเวก รองศาสตราจารย์ด้านระบบพลังงานและนิวเคลียร์ของสถาบันเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยออนตาริโอ กล่าวว่า “มาตรการที่เกิดขึ้นไม่ได้สร้างความแปลกประหลาดใจเท่าใดนัก เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนเติบโตและขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีการปรับปรุงคุณภาพชีวิต จึงไม่แปลกที่จีนจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง ยกเลิกการผลิต นำเข้าและทำลายขยะพลาสติก เพื่อที่จะกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อโลกใบนี้ให้น้อยที่สุด”
คำถามสำคัญคือประเทศต่างๆ รวมถึงสหรัฐฯ จะจัดการกับขยะส่วนเกินที่ไม่มีที่ไปนี้อย่างไร
อาจจะต้องมีการหาพื้นที่ทิ้งขยะภายในประเทศเพิ่มเติม หรืออาจจะต้องมีการกำจัดขยะด้วยวิธีการเผาหรือฝังกลบเกิดขึ้น ซึ่งทั้งสองวิธีก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น เกิดมลพิษทางอากาศ เป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมถึงดินเสื่อมสภาพ อีกทางเลือกหนึ่งประเทศต่างๆ เหล่านี้อาจจะต้องมองหาพื้นที่ทิ้งขยะภายนอกประเทศแห่งใหม่ เช่น ฟิลิปปินส์ หรือเวียดนามที่อาจพร้อมรับการนำเข้าขยะ รวมถึงเริ่มจากการไม่ใช้หลอดและลดปริมาณการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวันก็มีส่วนช่วยลดปริมาณการเกิดขยะพลาสติกได้อีกทางหนึ่ง
อ้างอิง:
