×

ภูมิธรรมนั่งหัวโต๊ะสภากลาโหมนัดแรก เร่งออกระเบียบลงโทษทหารเกณฑ์ถูกซ้อมทรมาน

โดย THE STANDARD TEAM
11.10.2024
  • LOADING...

วันนี้ (11 ตุลาคม) ที่กระทรวงกลาโหม ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมสภากลาโหมนัดแรกหลังมีการแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารเรือว่า วันนี้เป็นการประชุมด้านความมั่นคงทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งประเด็นหลักๆ มีการหารือเกี่ยวกับกฎระเบียบต่างๆ ในการดูแลกำลังพลที่เป็นพลเรือน ซึ่งได้มีการรับหลักการไปพิจารณารายละเอียดและแก้ไขให้เหมาะสมต่อไป

 

รวมถึงเรื่องการทำกฎหมายรองรับกำลังพลทหารที่กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งยืนยันว่าทางกองทัพไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่เกิดขึ้น (ซ้อมทรมาน) และทราบว่ายังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ้างแม้จะลดน้อยลง จึงได้มีการพูดคุยกันในหลักการและกฎระเบียบที่จะต้องมีความชัดเจนมากขึ้น เพราะมีกฎหมายหลายฉบับ ทั้งในเรื่องการซ้อมทรมาน บุคคลสูญหาย รวมถึงกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้อง

 

ทั้งนี้ ได้มีการหารือกับเหล่าทัพต่างๆ ว่าควรต้องมีมาตรการที่เข้มแข็งมากขึ้นเพื่อไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีก โดยที่ประชุมแต่ละเหล่าทัพได้รับหลักการเพื่อไปแก้ไขกฎระเบียบของกองทัพเพิ่มเติม และหลังจากนี้ได้กำชับให้แต่ละหน่วยงานไปชี้แจงให้รับทราบว่าหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกจะต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด

 

ทั้งนี้ หากมีการกระทำผิดเกิดขึ้นก็มีการลงโทษตามลำดับขั้นตอนอยู่แล้ว หากมีการลงโทษเกินกว่าเหตุที่กฎหมายรับรองก็ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด พร้อมย้ำขอให้แต่ละเหล่าทัพไปชี้แจงว่าวิธีการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง

 

ส่วนการแก้กฎระเบียบจะทำต่อการคัดเลือกทหารใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือไม่ และจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าจะไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก ภูมิธรรมกล่าวว่า ครั้งนี้ตนขอความมั่นใจ ซึ่งตามกฎระเบียบใหม่ที่ออกมาอาจจะมีการพูดถึงผู้ที่เห็นเหตุการณ์และไม่รายงาน อาจจะเป็นผู้รู้เห็นด้วย ซึ่งยังไม่ขอลงรายละเอียด ขอรอระเบียบที่ชัดเจนก่อน

 

ขณะที่ข้อเรียกร้องขอให้ใช้ศาลปกติไม่ใช่ศาลทหารนั้น ภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องดูกฎหมายทั้งสองส่วน เพราะมีทั้งกฎหมายทหารและกฎหมายอาญา ว่าทำอย่างไรให้เกิดเป็นรูปธรรมและทำให้ทุกฝ่ายเกิดความเกรงกลัว

 

สำหรับครูฝึกทหารที่เข้ามาใหม่ต้องให้ความรู้ด้วยหรือไม่ว่ากฎหมายเปลี่ยนไปแล้ว ภูมิธรรมยอมรับว่า กฎระเบียบได้เปลี่ยนรูปแบบไปแล้วก็ต้องมีการคัดสรรครูฝึกที่อายุน้อย ทันต่อโลก ส่วนครูฝึกเก่าก็จะเปลี่ยนแปลงให้ไปทำหน้าที่อื่นต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นส่วนแรกที่ให้แต่ละหน่วยงานไปชี้แจง และมีการกำชับไปว่าหากมีการเกิดขึ้นก็ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด

 

ภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีที่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ตั้งกระทู้ถามสดรัฐมนตรี ถามหาความจริงใจกรณีทหารเสียชีวิตจากการถูกซ้อมในค่ายที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ว่าเหตุใดวิโรจน์จึงสนใจแค่เรื่องซ้อมทรมาน เพราะตนก็ได้แจ้งไปแล้วว่าตนไม่สามารถไปตอบกระทู้ได้เนื่องจากติดภารกิจอื่น รวมถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมที่ติดภารกิจช่วยประชาชนน้ำท่วมอยู่

 

ภูมิธรรมขอถามกลับว่าวิโรจน์ไม่ทราบหรือที่ขณะนี้มีการช่วยประชาชนที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ หากเห็นจากภาพถ่ายหรือวิดีโอก็จะเห็นว่ามีการทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้หลับได้นอน ซึ่งตนได้ชี้แจงต่อประธานรัฐสภาไปแล้วว่าไม่ได้หลีกหนี แต่ติดภารกิจ หากจะถามอีกก็สามารถทำได้ ตนไม่เคยหลีกหนี

 

หากเราจริงใจกัน ไม่ควรใช้สิ่งนี้เป็นประเด็นทางการเมืองที่ดิสเครดิตรัฐบาล เพราะไม่เหมาะสม พร้อมย้ำว่าตนก็ลาตามกฎเกณฑ์ ไม่ควรหาว่าเป็นการหนี สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดพร้อมรับผิดชอบ

 

ส่วนที่วิโรจน์ระบุว่ารัฐมนตรีไม่ให้ความสำคัญกับการเสียชีวิตของพลทหาร ภูมิธรรมกล่าวว่า ก็มักเป็นแบบนี้ ชอบเอาประเด็นต่างๆ มาทำให้เกิดความแตกร้าว ตนไม่อยากให้เกิดกรณีแบบนี้ เพราะกองทัพก็ยืนยันชัดเจนในการไขปัญหา อย่าคิดแต่เรื่องการเมืองจนทำให้ประเทศไม่มีความสงบ ตนขอร้อง ตนพร้อมที่จะตอบทุกคำถามเกี่ยวกับกองทัพ ขอให้เข้าใจว่าเราไม่ได้มีหน้าที่แค่เรื่องเดียว ไม่ได้คิดจะหนีไปไหน แต่อาจจะช้าไปหน่อย ขอให้รอสักนิด ทุกอย่างจะดีขึ้น

 

ขณะที่ พล.ต. ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม นำแถลงผลการประชุมสภากลาโหมในวันนี้ว่า ประชุมสภากลาโหมครั้งแรกมีการพิจารณากรอบแนวทางการพัฒนากองทัพให้มีศักยภาพ พร้อมรองรับภัยคุกคามและความท้าทายในทุกมิติ โดยเฉพาะเรื่องการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

 

พร้อมทั้งมีแนวคิดการปรับโครงสร้างกองทัพให้มีขนาดกะทัดรัด คล่องแคล่ว ทันสมัย ไม่อุ้ยอ้าย พร้อมทั้งพัฒนาความเป็นอยู่ของทหารชั้นผู้น้อย ทั้งการศึกษาขั้นพื้นฐาน สวัสดิการต่างๆ เงินเดือน การบำเหน็จ รวมถึงปรับจำนวนข้าราชการทหารควบคู่กับการบรรจุข้าราชการพลเรือนกลาโหมให้ความสมดุล

 

พร้อมทั้งมีการออกมาตรการสำหรับทหารกองประจำการใหม่ลงทัณฑ์ลงโทษกรณีถูกซ้อมทหารให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยจะนำพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต่างๆ มาบังคับใช้ เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ. 2476, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565, ประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย และประมวลกฎหมายอาญาทหารว่าด้วยการละเลยลงโทษ

 

สำหรับมาตรการที่จะดำเนินการนั้นจะควบคุมทั้งก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ โดยจะมีการอบรมเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เมื่อเกิดเหตุแล้วต้องมีการห้ามปราม ยับยั้ง และต้องรายงานสถานการณ์โดยด่วนให้ผู้บัญชาการทราบ

 

ทั้งนี้ หากมีการกระทำที่เกินกว่าเหตุแล้วไม่ห้ามปราม ผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษด้วย และต้องมีการรายงานและตั้งกรรมการสอบสวนต่อผู้บังคับบัญชาทราบภายใน 7 วัน หากเป็นกรณีร้ายแรงให้ปลดออกและดำเนินคดีอาญา หน่วยงานต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องต้องเข้าชี้แจงต่อครอบครัวและสังคมว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร

 

พล.ต. ธนาธิป กล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงกลาโหมกำลังยกร่างดังกล่าวนี้ โดยจะมีการหารือร่วมกับเหล่าทัพอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising