วันนี้ (10 ตุลาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวกรณีที่พรรคภูมิใจไทยงดออกเสียงการลงมติร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติว่า พรรคภูมิใจไทยเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรับฟังทุกฝ่าย เมื่อสภาผู้แทนราษฎรเห็นอย่างหนึ่ง สมาชิกวุฒิสภาเห็นอย่างหนึ่ง จึงเห็นว่าเป็นการดีที่จะให้ทั้งสองสภามาหารือกัน เพื่อที่จะตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกัน จึงต้องสงวนท่าทีตรงนี้ไว้ก่อน เพื่อที่จะได้มีโอกาสรับฟังทั้งสองฝ่าย
อนุทินกล่าวอีกว่า การงดออกเสียงไม่ได้แปลว่าไม่เห็นด้วยหรือสวนทางใคร แต่ต้องการจะฟังเพื่อมีส่วนร่วม ซึ่งทางพรรคภูมิใจไทยก็สามารถตั้งกรรมาธิการตามสัดส่วนเข้าไปได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การงดออกเสียงของพรรคภูมิใจไทยที่ดูเหมือนเป็นการโหวตสวนทางกับพรรคร่วมรัฐบาล จะมีผลกระทบต่อการทำงานร่วมกันหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ไม่เกี่ยว นี่ไม่ใช่เรื่องของนโยบายหรือการทำงานของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของสภาที่ต้องแยกแยะออกจากกัน เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ฝ่ายบริหาร เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่การโหวตสวนของรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่หุ่นยนต์ สส. ทุกคนก็มีความคิดเป็นของตัวเอง จะไปสั่งซ้ายหัน ขวาหัน กลับหลังหัน โดยที่ไม่ให้แสดงความคิดเห็นเลยก็ไม่ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ความกังวลในการโหวตเช่นนี้จะกระทบกับความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น อนุทินกล่าวว่า ไม่มี เพราะเป็นรัฐบาลร่วมกันต้องหนักแน่น อย่างที่ได้บอกไปถึงเรื่องการทำประชามติที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน และพรรคภูมิใจไทยไม่ได้คัดค้านหรือไม่เอา แต่งดออกเสียงแล้วมาตั้งกรรมาธิการร่วม สำหรับพรรคภูมิใจไทย เรื่องการทำประชามติต้องมีเครื่องป้องกัน และทำให้เกิดความมั่นใจ เพราะสิ่งที่ต้องใช้เสียงประชามตินั้นเป็นเรื่องสำคัญ จึงต้องมั่นใจว่าได้ปกป้องสิ่งที่อาจจะเป็นอันตรายต่อบ้านเมืองไว้เรียบร้อยแล้ว