สหภาพยุโรป (EU) เตรียมลงมติในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ว่าจะเรียกเก็บ ภาษี นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนในอัตราสูงสุดถึง 45% หรือไม่ แม้ว่าจะมีความพยายามในการเจรจากับจีนเพื่อหาทางออกที่หลีกเลี่ยงการเก็บภาษีใหม่ก็ตาม
คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของ EU พบว่าจีนให้การอุดหนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่างไม่เป็นธรรม และจำเป็นต้องเก็บ ภาษี เพื่อให้ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปไม่เสียเปรียบในการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการกระทำที่ไม่เป็นธรรม และขู่ว่าจะตอบโต้ด้วยการเก็บ ภาษี สินค้าจากยุโรป เช่น ผลิตภัณฑ์นม บรั่นดี เนื้อหมู และรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่
ประเทศสมาชิก EU บางประเทศ เช่น เยอรมนี และสเปน ได้ออกมาเตือนว่าการเก็บภาษีดังกล่าวอาจก่อให้เกิดสงครามการค้า เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป โดยในปีที่แล้วทั้ง 2 ฝ่ายมีมูลค่าการค้ารวมกันถึง 7.39 แสนล้านยูโร
โรเบิร์ต ฮาเบค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนี กล่าวว่า “ผมไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีตอบโต้ เพราะอาจนำไปสู่มาตรการตอบโต้และทำให้เรามีข้อพิพาททางภาษี หรืออาจถึงขั้นสงครามการค้ากับจีน ผมกำลังพยายามหาทางออกทางการเมืองที่ไม่ทำให้เราต้องเข้าสู่สงครามการค้ากับจีน”
แม้ว่าจะมีความกังวลจากบางประเทศสมาชิก แต่เจ้าหน้าที่ของ EU ก็ยังคงมั่นใจว่าจะมีเสียงสนับสนุนเพียงพอในการอนุมัติการเก็บภาษีที่จะกินระยะเวลา 5 ปีด้วยกัน เว้นแต่จะมีเสียงคัดค้านจากเสียงข้างมากที่มีคุณสมบัติ ซึ่งประกอบด้วย 15 ประเทศสมาชิกที่คิดเป็น 65% ของประชากรทั้งหมดใน EU โดยภาษีใหม่นี้จะถูกเรียกเก็บเพิ่มเติมจากอัตราภาษีเดิมที่ 10%
ขณะเดียวกัน EU และจีน ก็กำลังหารือเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจา ซึ่งอาจรวมถึงกลไกในการควบคุมราคาและปริมาณการส่งออก แทนการเก็บภาษี
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ EU ยังคงปฏิเสธข้อเสนอที่จีนนำเสนอ โดยยืนยันว่าแนวทางแก้ไขปัญหาใดๆ จะต้องสอดคล้องกับกฎขององค์การการค้าโลก (WTO) แก้ไขผลกระทบจากการอุดหนุนของจีน และ EU สามารถตรวจสอบการปฏิบัติตามได้
ภาพ: China Daily via Reuters Attention Editors
อ้างอิง:
