วันนี้ (18 กันยายน) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงแนวทางของพรรคเพื่อไทยในการส่งตัว พล.อ. พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส. บัญชีรายชื่อของพรรค ผู้ต้องหาคดีตากใบ ให้กับเจ้าพนักงานว่า เรื่องใดที่เป็นคดีความ เราต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นเอกชน ข้าราชการ หรือใครก็ตาม ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งการเข้าสู่กระบวนการยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ทุกคนจนกว่าศาลจะตัดสินคดีเป็นที่สิ้นสุด
ส่วนกระแสเรียกร้องของภาคประชาชนให้ พล.อ. พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ส.ส. บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็น 1 ใน 8 ผู้ต้องหา เข้ามามอบตัวนั้น ภูมิธรรมระบุว่า ตนยังไม่พบท่าน ถ้าได้พบก็จะพูดคุยปรับทุกข์กันว่าในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เพราะไม่มีใครรู้เท่ากับท่านที่อยู่ ณ ที่นั้น และตัดสินใจ ณ ตอนนั้น ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ท่านชี้แจงเอง ไม่เหมาะที่ใครจะไปชี้แจงแทนได้
ส่วนจะขอให้มาพบเจ้าพนักงานหรือไม่นั้น ภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่เจอท่าน ซึ่งธรรมชาติของมนุษย์ การปรับทุกข์เป็นเรื่องของการพูดคุย ไม่ใช่เป็นการตั้งเป้าเอาความผิดไปให้หรือการไปสอบสวน เราควรเข้าใจคนทำงานและหาจุดที่ดีที่สุดที่จะเดินหน้าต่อไป
ส่วนที่มีการมองว่า พล.อ. พิศาล เป็นรุ่นพี่นักเรียนเตรียมทหารของ ทักษิณ ชินวัตร จะมีผลทำให้กระบวนการยุติธรรมสะดุดหรือไม่นั้น ภูมิธรรมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นเลขาธิการพรรคและกรรมการบริหารพรรคแล้วทั้งสิ้น แต่ในกระบวนการพรรคเพื่อไทยหรือพรรคการเมืองไหนก็ตาม มีหน้าที่ส่งเสริมให้กระบวนการยุติธรรมทำตามสิ่งที่ถูกต้อง และเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทย เพราะเราเคารพการตัดสินใจของศาลอยู่แล้ว และที่ผ่านมารัฐบาลหลังจากนั้นตัดสินใจเรื่องการดูแลเยียวยาไปพอสมควรแล้ว
ภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่กังวลว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นบาดแผลทางการเมือง เพราะทุกเรื่องในโลกนี้รวมทั้งในประเทศไทยมีสิ่งที่เป็นบาดแผลและสิ่งที่น่าชื่นชม ฉะนั้นไม่ควรจะมุ่งไปที่อดีตมากเกินไป อดีตเป็นบทเรียน ถ้าผิดพลาดก็ต้องทำไม่ให้ผิดพลาดอีก
“ผมเชื่อว่าการดำเนินการของทุกฝ่ายและทุกคนไม่ได้ตั้งใจให้เกิดโศกนาฏกรรมหรือปัญหา เพราะทุกคนตั้งใจทำตามหน้าที่ แต่เวลาชุลมุนก็อาจเกิดอะไรที่เกินเลยหรือหนักไปบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งก็ว่ากันไปตามกฎหมายหากเห็นว่าเกินขอบเขต” ภูมิธรรมกล่าว