วันนี้ (12 กันยายน) SCB EIC ประเมินเหตุน้ำท่วมภาคเหนือกระทบประชาชนมากกว่า 1 แสนครัวเรือน และสร้างความเสียหายต่อภาคการเกษตร 2.6 พันล้านบาท นับว่าสูงขึ้นจากการประเมินของ SCB EIC ก่อนหน้านี้ (หรือก่อนที่จะเกิดเหตุน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย) ที่ 2.2 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม มูลค่าความเสียหายนี้ยังไม่นับรวมความเสียหายของอาคารและบ้านเรือนของประชาชน
SCB EIC กล่าวอีกว่า เหตุน้ำท่วมที่เชียงราย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาสภาพอากาศที่แปรปรวน โดยระบุว่า “ก่อนเกิดเหตุที่จังหวัดเชียงราย เรามองว่าสถานการณ์น้ำท่วมกำลังจะคลี่คลาย แต่หลังจากเกิดเหตุที่เชียงราย เราเห็นว่าฝนที่ตกแรงกว่าคาด ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน”
นอกจากนี้ยังมองว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่ม ไม่เกิน 10 วัน ระดับน้ำในเชียงรายก็น่าจะเริ่มลดลงแล้ว ทำให้โอกาสที่สถานการณ์จะยกระดับขึ้นเป็นวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่จึง ‘เป็นไปได้ยาก’
“ข้าวสามารถทนแช่อยู่ในน้ำได้นานราว 3-5 วัน ดังนั้นหากน้ำลดเร็ว ความเสียหายก็จะน้อยลง” SCB EIC กล่าว