วันนี้ (30 สิงหาคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมด้วยรัฐมนตรีและทีมงานพรรคเพื่อไทย
โดยจุดแรกแพทองธารพร้อมคณะมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่วัดคลองกระจง อำเภอสวรรคโลก และกราบนมัสการพระครูสุมณฑ์ธรรมธาดา เจ้าอาวาสวัดคลองกระจง
จากนั้นร่วมบรรจุข้าวกล่องให้ผู้ประสบภัย เมนูหมูผัดพริกแกงและกุนเชียง ซึ่งแพทองธารระบุว่า ตักให้เยอะๆ จะได้กินอิ่มๆ เผลอๆ กินได้เกินหนึ่งมื้อ จากนั้นได้มอบถุงยังชีพและพบปะผู้ประสบภัยอีกครั้ง
ก่อนเดินทางไปติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำของแม่น้ำยม ณ ประตูระบายน้ำแม่น้ำยม (บ้านหาดสะพานจันทร์) และประตูระบายน้ำคลองหกบาท
ต่อมาแพทองธารและคณะ เดินทางไปเยี่ยมพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลวังทอง และตำบลวังใหญ่ พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ณ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย อบต.วังทอง
สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของพื้นที่ กล่าวกับชาวบ้านว่า นายกรัฐมนตรีสอบถามถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดสุโขทัย และบอกว่าอยากมาลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้รับตำแหน่งแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จึงไม่สามารถที่จะสั่งการได้ เพราะอาจทำให้ผิดกฎหมาย ตนจึงขอเป็นตัวแทน
สมศักดิ์กล่าวอีกว่า สิ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่อยากได้คือกำแพงริมตลิ่ง เพราะหากกำแพงริมตลิ่งดีน้ำก็จะไม่ทะลักออกมา เนื่องจากพื้นที่ตำบลวังทอง รับน้ำที่ไหลมาจากอำเภอศรีสัชนาลัย, อำเภอเมืองสุโขทัย และอำเภอสวรรคโลก หากมีกำแพงดินหรือคอนกรีตก็จะช่วยบรรเทาความเสียหายได้
จากนั้นแพทองธารเดินทางต่อมายังกองอำนวยการหมู่ที่ 8 ตำบลวังทอง อำเภอศรีสำโรง โดยกล่าวกับประชาชนว่า ขอแสดงความห่วงใย ซึ่งปัญหาต่างๆ หน่วยงานรับฟังไว้หมดแล้ว วันนี้ตนมารับฟังปัญหาและขอให้กำลังใจทุกคน ดีใจที่ได้มาเจอ อยากมาเจอพี่น้องเพื่อให้กำลังใจ ให้ทุกคนมีกำลังใจเยอะๆ กินข้าวเยอะๆ จะได้มีแรง เราสู้กันทุกคน เราจะร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน หากมีโอกาสก็อยากกลับมาเจออีก
ขณะที่ช่วงบ่ายจะไปเยี่ยมพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ณ ตำบลยางซ้าย อำเภอเมืองสุโขทัย และร่วมผัดกะเพราเนื้อกับเชฟชุมพล แจ้งไพร โดยก่อนการปรุงอาหารแพทองธารสอบถามว่า มีการเปิดไฟแล้วหรือยัง โดยถามย้ำหลายครั้งว่าเปิดไฟแล้วหรือยัง จริงหรือไม่ เนื่องจากการลงพื้นที่ที่จังหวัดน่านเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปรุงอาหารให้กับผู้ประสบภัย แต่ถูกวิจารณ์ว่าไม่ได้เปิดไฟ
แพทองธารยังให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่าน้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพฯ เพราะปริมาณน้ำไม่เยอะเหมือนปี 2554 ส่วนของการคาดการณ์เรื่องพายุก็ไม่มีเข้ามา ดังนั้นพื้นที่กรุงเทพฯ จึงปลอดภัยแล้ว ในขณะที่ภาคเหนือตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้น และเมื่อน้ำเริ่มลดจะขอโฟกัสเรื่องเยียวยาชาวบ้าน ซึ่งภายหลังการแถลงนโยบายต่อสภาแล้วคงทำอะไรได้มากขึ้น
จากนั้นแพทองธารและคณะติดตามสถานการณ์น้ำของแม่น้ำยมและพื้นที่ริมตลิ่งทรุดตัว ณ ตำบลปากแคว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่มีคันกั้นน้ำอีกประมาณ 2.4 กิโลเมตร ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ