วันนี้ (27 สิงหาคม) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีวาระสำคัญที่น่าสนใจ อาทิ การจัดสรรงบกลางเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม
ขณะที่มีรัฐมนตรีแจ้งลาประชุม 3 คน ได้แก่ พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจ้งลากะทันหัน ซึ่งทั้งสองรายนี้มีกระแสข่าวว่ากำลังมีปัญหาในการเสนอชื่อเพื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจไม่ได้ไปต่อ
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามรัฐมนตรีที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมว่า ได้รับเอกสารกรอกประวัติรัฐมนตรีหรือยัง ซึ่งมีหลายคนยอมรับว่าได้รับการกรอกประวัติแล้ว เช่น ภูมิธรรม เวชยชัย, จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา, อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ยังไม่รู้ว่าจะได้ดำรงตำแหน่งใด
พรรคพลังประชารัฐส่งรายชื่อ รมต. มาครบแล้ว แต่เพื่อไทยขอพิจารณา
ด้าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการส่งประวัติรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีว่า รายชื่อของทุกพรรคยื่นมาเป็นทางการ ซึ่งยื่นให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ในการดำเนินการตรวจสอบในทุกมิติอย่างที่เคยทำมา
ส่วนรายชื่อรัฐมนตรีในส่วนของพรรคพลังประชารัฐได้ส่งมาแล้วหรือไม่ รวมถึงการทาบทามพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า การเสนอทั้งหมดอยู่ในระหว่างนี้ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐส่งชื่อมาแล้ว แต่ในพรรคพลังประชารัฐเองเท่าที่เราทราบก็ยังมีความเห็นหลายกระแส ซึ่งพรรคเพื่อไทยกำลังพิจารณาอยู่ เนื่องจากบางพรรคมีความสับสน มีความยังไม่แน่นอนอยู่ภายใน และการจัดตั้ง ครม. เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี เราคงไม่ก้าวล่วง เพราะสุดท้ายต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ที่ผ่านมาหลายครั้งมีข่าวคาดการณ์ไปต่างๆ ก็ไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริง เพราะฉะนั้นขออนุญาตว่าเราไม่ได้เปิดเผยชื่ออะไรใดๆ
ส่วนรายชื่อที่พรรคพลังประชารัฐเสนอมา จะมาร่วมรัฐบาลทั้งหมดหรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า เราทำตามกฎหมาย ซึ่งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ตนไม่ใช่นายกฯ ไม่สามารถตอบแทนได้ว่ามีโอกาสหรือไม่ที่รายชื่อรัฐมนตรีจะมาร่วมไม่ครบ 4 คน โดยจะเข้ามาแค่บางคนและนำคนนอกเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรี แต่ย้ำว่าการทูลเกล้าฯ รายชื่อรัฐมนตรีจะทำเมื่อพร้อม พร้อมปฏิเสธตอบถึงกรณีการส่งเอกสารกรอกประวัติรัฐมนตรีใหม่ให้ พ.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
ภูมิธรรมระบุ ยังไม่ได้คุยกับพรรคประชาธิปัตย์
ภูมิธรรมกล่าวถึงการทาบทามพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุย ต้องไปทำให้ชัดเจนก่อน ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ทราบ ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ไม่ได้มีการมายื่นรายชื่อที่ตน แต่เพราะมีประเด็นจากการแต่งตั้งพิชิต ชื่นบาน จึงอยากให้เผื่อรายชื่อไว้ หากเกิดอะไรขึ้นก็สามารถเติมได้ เพราะหากเสนอชื่อมาพอดีแต่ตรวจสอบแล้วหายไป 5 คน ก็ต้องมาเริ่มต้นกระบวนการใหม่ซึ่งต้องใช้เวลามาก
จากเมื่อก่อนใช้เวลาตรวจสอบ 3 วัน แต่ปัจจุบันต้องตรวจมากขึ้น ซึ่งใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 1 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้นไม่เกิน 2 สัปดาห์ ดังนั้นเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว พรรคเพื่อไทยก็ส่งรายชื่อไป เมื่อส่งไปแล้วถือเป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี
ส่วนสัปดาห์หน้าจะเสร็จหรือไม่นั้น ภูมิธรรมกล่าวว่า บอกไม่ได้ ต้องถาม สลค. และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถ้ายังไม่ส่งชื่อมาเราก็จะดำเนินการต่อไม่ได้ ขึ้นอยู่กับ 2 หน่วยงานนี้
ย้ำ อำนาจตั้ง ครม. เป็นของนายกฯ
เมื่อถามว่ามีการขัดกันเรื่องข้อกฎหมายอำนาจสูงสุด เรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีหรืออำนาจของกฎหมายพรรคการเมือง ภูมิธรรมกล่าวว่า การจัดตั้ง ครม. เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว เพราะนายกรัฐมนตรีต้องเลือก ครม. เข้ามาร่วมงานให้เหมาะสม ต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นนายกฯ ดังนั้นมีสิทธิ์ที่จะเสนอใครก็ได้ที่คิดว่าเหมาะสม แม้แต่ที่ส่งเข้ามาแล้วหากไม่เหมาะสมก็เปลี่ยนแปลงได้ หรืออาจเลือกนักกฎหมายหรือบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน หรือเลือกคนกลางเข้ามาได้
ส่วนว่าที่รัฐมนตรีแต่ละคนกรอกประวัติแล้ว ยังไม่ทราบว่าจะได้อยู่กระทรวงใดใช่หรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า “ไม่ใช่ได้ตำแหน่งอะไร แต่จะได้เป็นรัฐมนตรีหรือเปล่ายังไม่รู้”
ร.อ. ธรรมนัสเผย “อิ่มตัวแล้ว เบื่อการเมือง”
ด้าน ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการเสนอชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐว่า การเสนอชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคได้มีการประชุมกรรมการบริหารพรรคไปแล้ว แต่ตนไม่ได้เข้าร่วม และยืนยันว่าตนไม่เคยเสนอบัญชีรายชื่อรัฐมนตรี
ส่วนกรณีของ พล.ต.อ. พัชรวาทยังไม่ได้รับการประสานนั้น อย่าไปพูดถึงบุคคลภายนอก หากเป็นเรื่องตน ตนตอบได้ ส่วนจะมีคนนอกหรือไม่อำนาจอยู่ที่นายกรัฐมนตรี เขาอาจเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารบ้านเมืองได้
ส่วนที่มีชื่อ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม และอัครา พรหมเผ่า สมาชิกพรรคเพื่อไทย น้องชาย ร.อ. ธรรมนัส ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ภายในวันศุกร์นี้ (30 สิงหาคม) น่าจะรู้ว่าพรรคใดร่วมรัฐบาลหรือไม่ และพรรคเพื่อไทยคงแสดงจุดยืนชัดเจน พร้อมย้ำว่า ไม่ทราบว่ารัฐบาลจะเอาเฉพาะอรรถกรและคนนอกหรือไม่
เมื่อถามว่า หากพรรครัฐบาลไม่เอาพรรคพลังประชารัฐ ในส่วนของท่านจะทำอย่างไร ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า “ผมอยู่การเมืองจนอิ่มตัวแล้ว และชีวิตผมโตมาจากอีกอย่าง ไม่ได้โตมาจากสายการเมือง”
เมื่อถามย้ำว่า จะอยู่ไปแบบนี้รอวันออกจากพรรคใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า ก็อยู่ไปแบบนี้ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ก้าวล่วงใคร แต่หากใครมาก้าวล่วงตน ตนก็จะสวนกลับ ยืนยันไม่ได้รอวันออก แต่อยู่ไปแบบนี้มีมารยาท อยู่กับใครก็จะไม่ก้าวล่วง ซึ่งหลักการของตนมีแค่นี้ ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “อิ่มตัวแล้ว เบื่อการเมือง”