วันนี้ (22 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบจริยธรรมของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่า สภาเป็นเพียงหน่วยงานที่รับเรื่องเท่านั้น เมื่อรับแล้วจะส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายดูรายละเอียดที่ปรากฏว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ฝ่ายกฎหมายจะต้องตรวจสอบ และเป็นหน้าที่ของประธานรัฐสภาหรือประธานสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องส่งให้หน่วยงานอื่นต่อไป
วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า หน่วยงานอื่นอาจจะเป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือศาลฎีกา ต้องให้ฝ่ายกฎหมายเสนอมาอีกครั้ง โดยประธานสภาไม่ได้วินิจฉัยความถูกต้องในเรื่องจริยธรรมหรือกฎหมายอื่นๆ หากฝ่ายกฎหมายพิจารณาแล้วว่าข้อเรียกร้องนั้นถูกต้อง ก็ต้องส่งให้หน่วยงานอื่นที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่าจะต้องส่งให้หน่วยงานใด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงพฤติกรรมของ พล.อ. ประวิตร ว่าเหมาะสมหรือไม่ที่ใช้มือตีหัวผู้สื่อข่าว วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ยังไม่เห็นคำร้องว่าเป็นคำร้องจริยธรรมหรือเรื่องอะไร ขอให้รออีกสักนิด และขอดูก่อนว่าร้อง พล.อ. ประวิตร ในฐานะใด ถ้าในฐานะสมาชิกรัฐสภา ก็จะเป็นเรื่องของคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร แต่ถ้าร้องเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกหรือเรื่องที่เกิดขึ้นนอกสภา ก็ต้องไปดูว่าต้องส่งเรื่องให้หน่วยงานใด
มองสัปดาห์หน้าควรเลือกรองประธานสภาให้เสร็จ
สำหรับการดำรงตำแหน่งรัฐบาลรักษาการ วันมูหะมัดนอร์ชี้ว่า งานของรัฐสภายังสามารถขับเคลื่อนไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณ รัฐบาลรักษาการก็สามารถเสนอเพื่อเข้าสู่คณะกรรมาธิการ เมื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และดำเนินการพิจารณาเสร็จสิ้น ก็จะเข้าสู่วาระที่ 2-3 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี (ครม.) รักษาการก็สามารถเสนอมาได้ โดยกำหนดเวลาการพิจารณาให้เสร็จสิ้นภายใน 105 วัน
ส่วนการส่งรายชื่อของ ครม. เป็นเรื่องของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้วจะเป็นคนเสนอรายชื่อของ ครม. ชุดใหม่เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป ในสัดส่วนของพรรคประชาชาติ ซึ่งตนทราบจากรายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่าได้มีมติเรียบร้อยแล้ว โดยส่งชื่อของ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ ไปเป็นรัฐมนตรี ส่วนจะไปอยู่กระทรวงไหนนั้นเป็นเรื่องของนายกฯ ตัดสินใจ รายละเอียดอื่นๆ ยังไม่ทราบ และทราบว่ามีการส่งเพียง 1 รายชื่อเท่านั้น
สำหรับตำแหน่งประธานสภาที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะทวงคืนเก้าอี้นั้น วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เก้าอี้ประธานสภาเป็นเรื่องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเป็นกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหาร ส่วนรองประธานสภาคนที่ 1 เนื่องจาก ปดิพัทธ์ สันติภาดา ได้ออกจากตำแหน่งไป ก็ต้องรอวิปฝ่ายค้านและรัฐบาลส่งรายชื่อมา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและกองการประชุมพร้อมจัดให้เลือกรองประธานสภาคนที่ 1 ทันทีที่ได้รับแจ้งจากประธานวิปทั้งสองฝ่ายในวันพรุ่งนี้ (23 สิงหาคม) และจะย้ำอีกครั้ง
ส่วนการเลือกรองประธานสภาคนที่ 1 ที่ล่าช้านั้น เป็นเพราะว่าต้องรอจัดตั้ง ครม. ชุดใหม่ ซึ่งเป็นการต่อรองเก้าอี้ของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของทั้งสองวิป สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและกองการประชุมได้เตรียมวาระและเครื่องมือสำหรับการเลือกไว้ทั้งหมดแล้ว จะพยายามให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และมองว่าในสัปดาห์หน้าควรเลือกได้แล้ว พร้อมยืนยันไม่มีอำนาจกดดันจากฝ่ายใด
