ในยุคที่สังคมเน้นย้ำการคิดบวก เราอาจลืมไปว่าการยึดติดกับความคิดบวกเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตได้ ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า ‘Toxic Positivity’ หรือ ‘ความคิดบวกที่เป็นพิษ’ Toxic Positivity คือการกดดันตัวเองหรือผู้อื่นให้มองโลกในแง่ดีตลอดเวลาโดยไม่ยอมรับอารมณ์ด้านลบ เช่น ความเศร้า หรือความกลัว ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณถูกเลย์ออฟ แทนที่คนรอบข้างจะรับฟัง พวกเขากลับพูดว่า “อย่าคิดมากเลย เดี๋ยวก็หางานใหม่ได้” ทำให้คนที่กำลังเจอกับเรื่องสะเทือนใจในชีวิตรู้สึกว่าความเศร้าของพวกเขาไม่สำคัญ หรือบางคนอาจกำลังเครียดเรื่องงาน แต่เมื่อเพื่อนถามไถ่ คุณกลับตอบว่า “ขอไม่พูดถึงดีกว่า ไม่มีอะไรหรอก” แทนที่จะเปิดใจคุยกับเพื่อน คุณเลือกที่จะไม่รับรู้ปัญหา ซึ่งอาจทำให้ความเครียดสะสมมากขึ้นในระยะยาว เป็นต้น
ผลกระทบของ Toxic Positivity ไม่เพียงแค่ทำให้รู้สึกไม่เข้าใจ แต่อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตที่ร้ายแรง เช่น ความวิตกกังวลจากการพยายามรักษาภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ หรือภาวะซึมเศร้าจากการเก็บกดความรู้สึก
วิธีรับมือกับ Toxic Positivity
- ยอมรับความรู้สึกทุกอย่าง เรียนรู้ที่จะอยู่กับอารมณ์ทั้งบวกและลบโดยไม่ตัดสิน
- พูดคุยอย่างเปิดใจ หาคนที่คุณไว้ใจและแบ่งปันความรู้สึกที่แท้จริง
- ปฏิบัติต่อตนเองด้วยความเมตตา เมื่อเผชิญปัญหา ถามตัวเองว่า “ฉันต้องการอะไรตอนนี้?” แทนที่จะบังคับให้คิดบวกทันที
- เป็นผู้ฟังที่ดี สำหรับคนรอบข้าง แทนที่จะพูดว่า “อย่าคิดมาก” ลองพูดว่า “ฉันเข้าใจว่าคุณกำลังรู้สึกแย่ ฉันอยู่ตรงนี้นะถ้าคุณต้องการคนคุยด้วย”
- ขอความช่วยเหลือ หากรู้สึกว่าไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
การมีความคิดบวกที่แท้จริงไม่ใช่การปฏิเสธด้านลบของชีวิต แต่คือการยอมรับความเป็นจริงทั้งหมดและเรียนรู้ที่จะเติบโตจากมัน ชีวิตที่สมดุลและเป็นจริงมีคุณค่ามากกว่าการพยายามเป็นคนที่ ‘มีความสุข’ ตลอดเวลา
ภาพ: Shutterstock
อ้างอิง: