บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ เปิดแนวทางพัฒนาการของการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมระบุ หากไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ได้ภายในเดือนสิงหาคม จะทำให้งบประมาณอาจล่าช้าประมาณ 2-3 เดือนเป็นอย่างน้อย สะเทือนความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและนักลงทุน และอาจทำให้ดิจิทัลวอลเล็ตถูกยกเลิก
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมินสถานการณ์การเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่และจัดตั้ง ครม. ผ่านบทวิเคราะห์ โดยระบุว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีคำสั่งให้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ซึ่งคาดว่าแนวทางพัฒนาการของการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เบื้องต้นจะเป็นดังนี้
- ภายใน 1 สัปดาห์ สภาผู้แทนราษฎรไทยเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ตามมติของคณะรัฐมนตรี (ตามรูปแบบสมัยประชุมวิสามัญของรัฐสภาไทย วันที่ 26-27 ตุลาคม 2563 หลังประชุม ครม. วันที่ 21 ตุลาคม 2563)
- หากสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ได้ภายในเดือนสิงหาคม กระบวนการงบประมาณอาจล่าช้าประมาณ 1 เดือน เนื่องจากต้องให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2568 วาระที่ 2-3 ภายในต้นเดือนถึงกลางเดือนกันยายน และ สว. พิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2568 ปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม และทูลเกล้าฯ ถวายให้ทรงลงพระปรมาภิไธยกลางเดือนถึงปลายเดือนตุลาคม
โดยเบื้องต้นมองว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 2.3% และ 2.7% ในปี 2567-2568 ขณะที่โอกาสในการทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตลดลง
- หากไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ได้ภายในเดือนสิงหาคม กระบวนการงบประมาณอาจล่าช้าประมาณ 2-3 เดือนเป็นอย่างน้อย ซึ่งจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและนักลงทุน รวมถึงกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต
ในเบื้องต้นมองว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 2.0% และ 2.5% ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ ขณะที่โอกาสในการทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตน่าจะถูกยกเลิก
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตหรือสิ่งที่ควรจับตาสำคัญ 3 ประการ
- ประเด็นดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่ได้เข้า ครม. เศรษฐา โดยกระบวนการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐยังไม่มีมติ ครม. รองรับ บ่งชี้ว่านโยบายนี้สามารถปรับเปลี่ยนหรือยกเลิกได้ใน ครม. ใหม่
- การเสนอชื่อผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะเสนอเพียงชื่อเดียวหรือไม่
- หากมีการเสนอชื่อผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงชื่อเดียว ประเด็นที่ต้องจับตาคือ โควตากระทรวงต่างๆ ของ ครม. เป็นเช่นไร โดยเฉพาะโควตากระทรวงสำคัญ เช่น คลัง, คมนาคม, มหาดไทย, เกษตรและสหกรณ์ และแรงงาน
การเมืองกดดันระยะสั้น แนะเข้าสะสมที่ระดับ 1,250 จุด
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่า จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดให้เศรษฐาขาดคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีนั้น มองว่าช่วงสั้นจะเป็นปัจจัยกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจต่างๆ ระหว่างรอ ครม. ชุดใหม่เข้ามาบริหารงานประเทศ
ภายใต้ความกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศข้างต้น ประเมินว่า SET Index มีโอกาสปรับตัวลดลงจากความกังวลสุญญากาศในด้านนโยบายการบริหารประเทศ โดยประเมิน Downside ของตลาดมีโอกาสลงไปทดสอบบริเวณ 1,280-1,250 จุด อย่างไรก็ดี มอง SET ที่บริเวณ 1,250 จุด คิดเป็น PER เพียง 13.7 เท่า ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงโควิดในปี 2563 และช่วง Global Crisis ในปี 2551 จึงมองหากดัชนีปรับลงแถว 1,250 เป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับทยอยสะสม
ทั้งนี้ เป้าหมาย SET Index สิ้นปี 2567 ปัจจุบันของเราที่ 1,500 จุด เริ่มมี Downside เนื่องจากการเติบโต GDP เศรษฐกิจที่อาจต้องปรับลดลงจากปัจจุบัน 2.5% และ 3.0% ในปี 2567-2568 ตามลำดับ เนื่องจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่ต่อเนื่อง ทำให้นโยบายต่างๆ อาจล่าช้าออกไป ขึ้นกับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
เปิด 3 ธีมลงทุนเอาชนะตลาด
ทั้งนี้ แนะนำรอเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว สำหรับหุ้น 3 ธีมที่คาดว่าจะสามารถชนะตลาด ได้แก่
- ธีมหุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยเลือกหุ้นที่คาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรในช่วง 1H67 โดยให้ Div. Yield เกิน 2%
- ธีมหุ้นที่คาดว่าจะได้ผลบวกจากการปรับเงื่อนไขใหม่ของกองทุน Thai ESG โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาท และลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว
- ธีมหุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตดีในช่วง 2H67 อีกทั้ง Valuation ไม่แพง
ขณะที่ความไม่แน่นอนของการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมองว่าส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาหุ้นกลุ่มพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องในช่วงสั้น โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกแบบ Staples (CPALL, CPAXT, BJC, TNP) แต่ไม่มีผลกระทบต่อพื้นฐาน เนื่องจากเราและตลาดยังไม่รวม Upside จากดิจิทัลวอลเล็ตในประมาณการ
ดังนั้น หากราคาหุ้นปรับลงมากจึงมองเป็นโอกาสซื้อสำหรับหุ้นที่กำไรยังเติบโตดี YoY อย่าง CPALL, CPAXT และ TNP
