วันนี้ (5 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา สมาชิกวุฒิสภากลุ่มที่เรียกตัวเองว่า สว. พันธุ์ใหม่ และกลุ่ม สว. อิสระ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังวอล์กเอาต์จากห้องประชุมวุฒิสภา ระหว่างที่มีการลงคะแนนคัดเลือกคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด
ก่อนหน้านี้ในที่ประชุมเกิดข้อถกเถียงกันถึงการเสนอชื่อคณะกรรมาธิการฯ ที่เป็นกลุ่มก้อนเกินไป แม้ สว.เสียงข้างน้อยพยายามร่วมเสนอชื่อคณะกรรมาธิการฯ จนเกินจำนวน 15 คนตามที่ข้อบังคับกำหนด และได้ทักท้วงให้มีการลงมติรูปแบบจับสลาก เพื่อให้ สว.ทุกสัดส่วนได้เข้าไปเป็นคณะกรรมาธิการฯ แต่ประธานในที่ประชุมก็ไม่ยอมและไม่เปิดโอกาสให้แสดงวิสัยทัศน์
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.เผยว่า การปฏิบัติงานในวุฒิสภาวันนี้เกิดภาวะหยุดชะงัก เนื่องจากประธานวุฒิสภาและเสียงส่วนใหญ่ได้ดำเนินการโดยการเอาเสียงข้างมากลากไป เราเห็นว่าวิธีการเช่นนี้ไม่มีเคยมีมาก่อน ที่ประธานจะไม่ฟังสมาชิก ปล่อยให้เสียงข้างมากทำแบบนี้ เราจึงร่วมวอล์กเอาต์ ไม่ขอร่วมสังฆกรรม เพื่อให้การประชุมวันนี้มีเสียงฝ่ายเดียวในการเลือกองค์กรอิสระ ให้ประชาชนได้รู้ว่ามีความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้น เป็นรอยด่างของวุฒิสภาชุดนี้
“ผมจะไม่ยอมเป็นตรายางให้กับกระบวนการที่ไม่ยุติธรรมอย่างนี้ จึงขอให้ประธานวุฒิสภาทบทวน แต่ท่านกลับไม่ทบทวน เราจึงมีอาวุธเพียงอย่างเดียวคือการไม่ร่วมสังฆกรรม และมีเพื่อนสมาชิกที่เห็นด้วยกับแนวทางการแสดงออกอารยะขัดขืนในส่วนนี้” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
ด้าน นันทนา นันทวโรภาส สว.กล่าวว่า ตามข้อบังคับกำหนดให้มีคณะกรรมาธิการ 15 คน ในการตรวจสอบคุณสมบัติอัยการสูงสุด โดยตามหลักการทั่วไปจะแบ่งสัดส่วนว่ากลุ่มไหนจะได้ตัวแทนเฉลี่ยเท่าไร แต่ปรากฏว่า สว.กลุ่มที่รวมกันมาเป็นบ้านใหญ่เสนอชื่อมาทั้งหมด 15 คนเต็มจำนวน ไม่แบ่งให้กับ สว.ที่เป็นกลุ่มอิสระ ถือว่าเป็นการรวบรัดตัดตอน และเป็นการดำเนินการโดยที่ไม่สนใจ สว.เสียงข้างน้อย
ขณะที่ อังคณา นีละไพจิตร สว.กล่าวเสริมว่า การวอล์กเอาต์วันนี้ ทุกคนพยายามอย่างที่สุดในการเสนอทางเลือกให้ภาคทุกส่วนได้มีส่วนร่วม เพราะหน้าที่สำคัญที่สุดของ สว.คือการเห็นชอบผู้จะไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ เพราะฉะนั้นเราได้ใช้ความพยายามทุกอย่างเพื่อขอมีส่วนร่วม รวมถึงที่ผ่านมาตามวิธีปฏิบัติต้องหารือ พูดคุยกัน เราเคารพเสียงส่วนใหญ่ แต่เสียงส่วนใหญ่ต้องไม่ละเลยเสียงข้างน้อย
“สุดท้ายจะทำให้คนกลุ่มหนึ่งมีอำนาจในการออกแบบการได้มาซึ่งองค์กรอิสระอย่างไรก็ได้ และเราไม่มีโอกาสได้รับทราบ เราในฐานะที่เป็นเสียงข้างน้อย สิ่งที่ทำได้คือการไม่อยู่ร่วมในการเลือกคณะกรรมาธิการฯ ในวันนี้” อังคณาระบุ
อังคณากล่าวอีกว่า ในการประชุม ประธานวุฒิสภาอ้างข้อบังคับในการประชุมตลอดว่าสมาชิกเสนอแล้วและต้องมีคนรับรอง ถ้ามีมากกว่านี้ก็จะโหวต แต่การทำงานของนิติบัญญัติจะต้องยืดหยุ่น โอนอ่อน ผ่อนปรน ใช้หลักกฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ เพราะ สว.ชุดนี้มาจากความหลากหลาย ถ้าไม่ยอมรับเสียงข้างน้อยก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะอยู่รับรองกับความไม่เป็นธรรม
อังคณาระบุว่า วันนี้เราก็ต้องขอโทษประชาชน เราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว หากยังนั่งอยู่ต่อไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ และจะเป็นการรับรองความชอบธรรมให้กับสิ่งที่เราไม่เห็นด้วย เราก็ใช้วิถีทางสันติวิธี และพรุ่งนี้ก็กลับมาทำงานต่อ
ส่วน สว.ที่วอล์กเอาต์ในวันนี้คาดว่ามีประมาณเกือบ 50 คน ซึ่งไม่ได้อยู่รวมในก้อนใหญ่ 150 คน โดยพวกเราทั้ง สว.พันธุ์ใหม่ และ สว.ประชาชน ก็รู้จักกันมานาน อยู่ในวงการเดียวกัน มีอุดมการณ์เดียวกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การกระทำในลักษณะนี้จะนำไปสู่เผด็จการวุฒิสภาหรือไม่ นันทนาหัวเราะ พร้อมกล่าวว่า ณ วันนี้ก็เป็นแล้ว
