นับตั้งแต่วิกฤตโควิด และด้วยสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ หลายคนมองหาอาชีพเสริม หรือลาออกจากมนุษย์เงินเดือนมาเป็นนายตัวเอง โดยเฉพาะด้วยยุคสมัยนี้ ช่องทางออนไลน์ก็สร้างรายได้มหาศาลให้กับใครหลายคน เช่นเดียวกับอินฟลูเอ็นเซอร์สาวอเมริกันคนนี้ เธอต้องการเป็นแรงบันดาลใจให้หนุ่มสาวยุคใหม่ด้วยการฉีกกฎเกณฑ์ที่ว่าใบปริญญาคือใบเบิกทาง อาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป เพียงแค่คุณมีทักษะ
สำนักข่าว CNBC หยิบยกข้อมูลอินฟลูเอ็นเซอร์สาวจากรายการ Make It…Ditching the Degree ที่คัดเลือกสัมภาษณ์เกี่ยวกับชีวิตและแนวทางการสร้างรายได้ของคนรุ่นใหม่ในสหรัฐฯ เธอมีนามว่า Hannah Maruyama โดยจุดเริ่มต้นกว่าจะมีอาชีพ Coaching AI นั้นไม่ง่าย ย้อนไปสิบกว่าปีที่แล้ว เธอเข้าเรียนในวิทยาลัยเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี และไม่นานเธอก็ตัดสินใจในทันทีว่าไม่ต้องการกลับไปเรียนอีก จึงออกมาลงทะเบียนเรียนการศึกษานอกระบบที่ Georgia Southern University ในเมืองซาวานนาห์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ทำไม ‘Gen Z’ ทุ่มไปกับการซื้อของแบรนด์เนม มองการซื้อบ้านสักหลังและออมเกษียณเป็นเรื่องยากและไกลเกินฝัน?
- 7 อาชีพเสริมสุดปัง ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษา อยู่มุมไหนของโลกก็สามารถทำได้ อัปค่าตัวสูง 300 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง
ตอนนั้นเธอเบื่อหน่าย และไม่ได้รู้สึกว่าการเรียนมหาวิทยาลัยนั้นน่าสนใจเท่าไรนัก อีกทั้งยังตั้งคำถามว่า ต้องกู้เงินเรียนสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร หลังจากนั้นเธอออกจากมหาวิทยาลัย โดยเรียนไปได้เพียง 3 ภาคการศึกษา
Maruyama คิดว่าอาชีพที่เธอเลือกในวันนี้และอนาคตที่พอจะทำได้โดยไม่ต้องใช้ใบปริญญาตรีคงจะมีแค่งานที่มีรายได้น้อย หรือเป็นผู้ประกอบการเล็กๆ ทำให้ตลอดช่วงวัย 20 ปี เธอจึงทำงานเป็นทั้งไลฟ์การ์ด, บาร์เทนเดอร์ และเจ้าหน้าที่บนเรือชมโลมา ด้วยรายรับเพียง 30,000 ดอลลาร์ต่อปี
จากบาร์เทนเดอร์ ช่างสัก สู่วงการเทค
แต่ในปี 2018 เธอและ ไรอัน สามีของเธอ ย้ายไปยังโฮโนลูลูที่ฮาวายเพื่อทำตามความฝันในวัยเด็ก นั่นก็คือการเป็นช่างสักสวยงาม (Cosmetic Tattoos) และได้เปิดร้าน Yama Studios
แต่ก็เกิดจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่คือการระบาดของโควิด เธอต้องปิด Yama Studios และรีบหางานใหม่เพื่อจ่ายค่าเช่าบ้านและสตูดิโอ เพราะชีวิตที่ฮาวายก็แสนแพง
เธอใช้โอกาสนี้หันไปหางานใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นงานด้านเทคโนโลยีและต้องใช้ทักษะที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น CompTIA, AWS, CISSP ซึ่งเป็นคำย่อที่ไม่คุ้นเคย แต่ละวันเธอใช้เวลาหลายชั่วโมงศึกษาบน Reddit, Quora และค้นคว้าความรู้จากเวทีฟอรัมต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ต เพื่ออ่านข้อมูลเกี่ยวกับด้านเทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ให้มากที่สุด
กระทั่งเธอได้เป็นผู้ดูแลระบบ และได้รับการรับรองจาก Salesforce และทำสัญญารายได้ 70,000 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่ารายได้ที่เคยได้รับถึง 2 เท่าทีเดียว
หลังจากนั้น เธอสมัครเรียนหลักสูตร Salesforce และได้งานด้านเทคโนโลยีงานแรกในตำแหน่งนักพัฒนา Salesforce ทางไกล ที่บริษัทที่ปรึกษาการจัดการธุรกิจในโฮโนลูลูด้วยเงิน 70,000 ดอลลาร์ โดยงานส่วนใหญ่ที่เธอสมัครไม่จำเป็นต้องมีวุฒิปริญญาตรี แต่กลับเน้นทักษะทางเทคนิคและทักษะทางสังคมที่จำเป็นในการทำงาน
เธอบอกว่า “แม้ว่าจะไม่ตรงตามข้อกำหนดด้านการศึกษา แต่ฉันก็จะสมัคร และจะระบุไว้ในใบสมัครหรือระหว่างการสัมภาษณ์ว่า ฉันจะเรียนรู้ทุกอย่างที่จำเป็นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ในเวลาเดียวกัน เธอใช้โอกาสเริ่มแบ่งปันประสบการณ์ด้วยการเปิดช่อง TikTok โดยใช้ชื่อว่า @degreefree ช่วยเหลือเพื่อนๆ หางานแบบไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษา
เธอฝึกฝนอ่านข้อมูลเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ แล้วถ่ายทอดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ กระทั่งวิดีโอแต่ละรายการมียอดดูมากกว่าล้านครั้ง และเต็มไปด้วยผู้ติดตามที่เป็นวัยรุ่น Gen Z และวัย 20 ต้นๆ ที่ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการสร้างเส้นทางอาชีพโดยไม่ต้องเรียนจบมหาวิทยาลัย
จนในที่สุดช่วงปลายปี 2021 เธอเปิดตัว Degree Free อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ และแหล่งข้อมูลการศึกษาฟรีสำหรับคนหนุ่มสาวที่สนใจอาชีพที่ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษาในการสมัครงาน
ในเดือนเดียวกัน เธอได้ทำงานสตาร์ทอัพ AI บริษัทหนึ่งควบคู่จนออกจากงาน และเข้าร่วม Neo License ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่สร้างซอฟต์แวร์ AI ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ
จนในตอนนี้ Maruyama สั่งสมประสบการณ์ในวัยย่างเข้า 30 ปี ที่กำลังสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 128,000 ดอลลาร์ต่อปี (หรือราวๆ 3-4 ล้านบาท) จากการทำงานด้าน AI ให้บริการ Coaching แก่พันธมิตรแบรนด์ต่างๆ และเป็น Coaching AI ให้กับหนุ่มสาว Gen Z วัย 16-20 ปีในการออกแบบอาชีพ
ปัจจุบันเธอได้รับการรับรองในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและการจัดการ รวมถึงด้านอื่นๆ และยังคงทำงานออนไลน์ที่ Neo License แบบเต็มเวลาอีกด้วย
เธอทิ้งท้ายว่า จุดเปลี่ยนที่เธอคิดว่าเธอประสบความสำเร็จในวันนี้ จากไม่มีรายได้ ไม่มีวุฒิการศึกษา นั่นคือทักษะและการฝึกฝน และเชื่อหรือไม่ว่า
“การที่ผู้คนมักจะบอกว่ามหาวิทยาลัยคือใบเบิกทางของทุกสิ่ง คุณไม่สามารถประสบความสำเร็จได้หากไม่มีใบปริญญานั้น ไม่ใช่คำตอบเสมอไป โลกที่เราอยู่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว มีเส้นทางมากมายนับล้านเส้นทางที่ไม่ต้องใช้ใบปริญญาก็ได้ และวันนี้ฉันรู้สึกโชคดีที่ได้พบกับเส้นทางที่ทำให้ฉันมีความสุขอย่างแท้จริง ”
งานวิจัยชี้ บริษัทสหรัฐฯ ไม่สนใบปริญญา
สำหรับตลาดแรงงานสหรัฐฯ ปัจจุบัน เมื่อดูงานวิจัยฉบับล่าสุดของ McKinsey ระบุว่า ปัจจุบันภาคการผลิต บริการ และก่อสร้างของสหรัฐฯ เผชิญกับปัญหาการจ้างแรงงานที่มีทักษะ เช่น ช่างไม้, ช่างไฟฟ้า, ช่างเชื่อม, ช่างประปา, นักพัฒนาเว็บ และตำแหน่งอื่นๆ ตลอดจนความปลอดภัยทางไซเบอร์และเทคโนโลยี หลายตำแหน่งหันมาปรับกฎเกณฑ์และเปิดรับบุคลากรที่มีความสามารถโดยไม่มีวุฒิการศึกษา แรงงานกลุ่มนี้เริ่มหลั่งไหลเข้ามาสู่ตลาดงานในระบบมากขึ้น
สอดคล้องกับแพลตฟอร์มสมัครงานชื่อดังอย่าง ZipRecruiter และ Indeed ก็ได้สำรวจนายจ้างในสหรัฐฯ กว่า 2,000 แห่ง พบว่า บริษัทเกือบ 50% ยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาสำหรับงานบางตำแหน่งในปี 2023 น่าสนใจว่า นายจ้างเกือบ 3 ใน 4 ให้ความสำคัญกับทักษะและประสบการณ์ของผู้สมัครมากกว่าใบประกาศนียบัตรและวุฒิศึกษา สะท้อนว่าตลาดแรงงานในอนาคต เด็กรุ่นใหม่ Gen Z แม้เรียนจบมาทำงานไม่ตรงสาย หรือหากฝึกฝนและมีทักษะ ก็สามารถหางานที่สร้างรายได้ที่หลากหลายได้อีกมาก
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2024/04/30/29-year-old-earns-100000-working-in-ai-without-a-college-degree-heres-how.html?utm_content=Main&utm_medium=Social&utm_source=facebook%7Cmain&fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2l9wrc6tdzWmcOpinZy4ihIJNTm9i3ekj8QP4rAnNVLaVhpdtHgAihIhE_aem_SC-xTesBge78QEudf3vJng
- https://www.mckinsey.com/capabilities/people-and-organizational-performance/our-insights/tradespeople-wanted-the-need-for-critical-trade-skills-in-the-us
- https://www.cbsnews.com/news/college-degree-job-requirement/
