วันนี้ (3 สิงหาคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีแพลตฟอร์มสินค้าจีน Temu เข้ามาบุกตลาดในประเทศไทยและกำลังกวาดรายได้จากประชาชน แต่เงินทุกบาทถูกส่งไปประเทศจีนโดยไม่มีการเสียภาษีในประเทศไทยว่า ได้กำชับไปที่กรมสรรพากรรวมถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แล้ว เพราะปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มีสูงเราจึงต้องตามให้ทัน พร้อมย้ำว่า ถ้ามาทำการค้าในประเทศไทยก็ต้องเสียภาษี โดยการยึดกฎหมายเป็นหลัก
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ปัญหาเหล่านี้ได้พูดคุยกันตลอดกับ 3 หน่วยงาน คือ กรมสรรพากร กระทรวงดีอี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหมือนกับเรื่องการเสียภาษี 1,500 บาทก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะ SMEs เป็นภาคส่วนที่เปราะบางจึงต้องป้องกัน และหากมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงยอดการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตว่า วันนี้ (3 สิงหาคม) จะมีเพิ่มขึ้น เป็นไปตามที่รัฐบาลคาดการณ์ ส่วนที่ตอนนี้มีการปล่อยข่าวลวงว่าให้ลงทะเบียนหลังวันที่ 14 สิงหาคม ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดีนายกรัฐมนตรี และอาจจะมีการเปลี่ยนรัฐบาลนั้น เมื่อวานได้กำชับ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง ที่มีการปล่อยข่าวลวง-ข่าวปลอม เพราะตอนนี้ปล่อยข่าวเยอะมาก แต่หากประชาชนคนไหนยังไม่ได้ลงทะเบียนก็ขอให้ใจเย็นๆ ถ้ายังไม่แน่ใจก็สอบถามมาได้ที่สายด่วน 1111 อย่าไปเชื่อข่าวปลอม
ขณะที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้ประสานกับฝ่ายทะเบียนราษฎรให้ไปไล่เช็กว่าหากใครยังไม่ลงทะเบียนก็จะให้ลงทะเบียน เพราะไม่อยากให้สูญเสียโอกาส