×

ก.พ.ค.ตร. ยืนยัน พิจารณาปมออกจากราชการ ‘พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์’ อย่างเป็นธรรม คำตอบชี้ขาดเท่านั้น

โดย THE STANDARD TEAM
31.07.2024
  • LOADING...

วันนี้ (31 กรกฎาคม) ธวัชชัย ไทยเขียว หนึ่งในคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. และรองโฆษก ก.พ.ค.ตร. โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ร้องทุกข์ของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน 

 

ซึ่งจะพิจารณาลงมติว่าการลงนามคำสั่งดังกล่าวที่ลงนามโดย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ในขณะที่ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในวันพรุ่งนี้ (1 สิงหาคม) ว่า 

 

“เมื่อน้ำกับน้ำมันเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน หลายท่านอาจไม่ทราบว่ามันมีสารตัวหนึ่ง คือ Emulsifier หรือสารที่ช่วยให้น้ำกับน้ำมันเข้าเป็นเนื้อเดียวกันครับ

 

“นักวิเคราะห์หลายท่านมีจินตนาการ ก.พ.ค.ตร. ว่าหลังจากกรรมการท่านหนึ่ง คือ ท่าน พล.ต.อ. วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ขอถอนตัวงดกรณีอันอาจถูกคัดค้านได้ตามข้อ 34 ของกฎ ก.พ.ค.ตร. เลยทำให้ ก.พ.ค.ตร. ที่นั่งพิจารณาเหลือ 6 ท่านนั้น ก็จะเหลือเป็นอดีตตำรวจ 3 ท่าน และบุคคลที่มิใช่ตำรวจ 3 ท่าน ดังนั้น ถ้าเสียงออกมาเท่ากันจะทำอย่างไร เสมือนกำลังแยกน้ำมันออกไปจากน้ำ

 

“ขอเรียนเบื้องต้นไว้ก่อนว่า การปฏิบัติงานของ ก.พ.ค.ตร. ทุกท่านในทุกๆ สำนวนนั้น จะไม่มีใครพรากความถูกต้องเป็นธรรมตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายไปจากคู่กรณีไม่ว่าฝ่ายใดไปได้ เพราะ ก.พ.ค.ตร. ทุกท่านยึดคาถาบทเดียวกันเป็นสรณะที่เป็นสารช่วยให้น้ำกับน้ำมันเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน คือ

 

“‘พวกเราเป็นวัยที่ไม่มีอนาคตแล้ว เหลือแต่เวลาในช่วงชั้นสุดท้ายของชีวิตเท่านั้น’ 

 

“แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคำถามจำนวนมากว่า ถ้าเสียงเท่ากันจะทำอย่างไร ก็ถือโอกาสเผยแพร่ความรู้กรณีดังกล่าวไปเสียด้วยว่า…ตามระเบียบ ก.พ.ค.ตร. ว่าด้วยการประชุมของ ก.พ.ค.ตร. พ.ศ. 2567 ข้อ 16 วรรคสอง  

 

“กรรมการ ก.พ.ค.ตร. คนหนึ่งให้มีหนึ่งเสียงในการลงคะแนน และห้ามมิให้งดออกเสียง ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด และในกรณีที่มีความเห็นแย้งให้ทำความเห็นแย้งไว้ก็ได้ เว้นแต่เป็นการลงมติ โดยวิธีการลงคะแนนลับ 

 

“ซึ่งก็สอดคล้องกับพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 82 วรรคสอง ‘กรรมการหนึ่งคนให้มีหนึ่งเสียงในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด’

 

“นั่นหมายความว่า ในวิธีการทางปกครอง ถ้าเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาดได้”

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising