วันนี้ (28 กรกฎาคม) คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แนะนำประชาชนใช้แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ซึ่งเป็นแอปที่รวบรวมบริการของภาครัฐไว้เป็นเสมือนศูนย์กลางบริการของภาครัฐที่มีให้เลือกใช้กว่า 83 บริการในแอปเดียว
สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร เพื่อให้บริการรับชำระค่าน้ำ-ค่าไฟ, แจ้งเตือนใบขับขี่หมดอายุ, แจ้งเตือนวันต่อภาษีรถยนต์, ตรวจสอบสิทธิรักษาพยาบาล, สิทธิประกันสังคม, เช็กเงินสะสมประกันสังคม และจ่ายค่าปรับใบสั่งตำรวจ
คารมกล่าวว่า ด้วยความที่เป็นบริการที่ต้องเชื่อมข้อมูลไปยังหน่วยงานต่างๆ การลงทะเบียนจึงจะต้องมีการยืนยันตัวตนหลายระดับ จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่าการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นจะเก็บเพื่อให้บริการได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2565 ดังนั้นจึงมั่นใจเรื่องความปลอดภัยในการจัดการข้อมูลได้อย่างแน่นอน
สำหรับการลงทะเบียนแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ จะมีการยืนยันตัวตน 2 ระดับ ดังนี้
ระดับที่ 1 การยืนยันตัวตนผ่านการถ่ายบัตรประชาชนใส่ในแอปพลิเคชัน เพียงถ่ายรูปบัตรประชาชนและถ่ายภาพหน้าตรงตามขั้นตอนที่ระบุในแอปพลิเคชัน สามารถเข้าใช้งานบริการได้ทันที
ระดับที่ 2 การยืนยันตัวตนผ่านทางจุดให้บริการยืนยันตัวตน สำหรับในบางบริการที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องพิสูจน์ตัวตนเพิ่มเติม เช่น การตรวจสอบเครดิตบูโร แอปพลิเคชันจะต้องยกระดับการพิสูจน์ตัวตนเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการยืนยันว่าเจ้าของบัตรประชาชนกับผู้ที่ยืนยันตัวตนเป็นคนเดียวกัน
โดยการยืนยันตัวตนนั้นสามารถทำได้ผ่าน 5 ช่องทาง ดังนี้
- ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ จะเป็นตู้คีออสที่ให้บริการทั้งด้านข้อมูลและการลงทะเบียนต่างๆ ซึ่งตู้นี้จะสามารถใช้ในการยืนยันตัวตนกับแอปพลิเคชันทางรัฐได้ โดยจะต้องเตรียมบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตน เมื่อได้ยืนยันตัวตนตามขั้นตอนที่แจ้งผ่านตู้แล้วจะได้รับ QR Code เพื่อสแกนใช้งานแอปพลิเคชันทางรัฐ ถือว่าการยืนยันเสร็จเรียบร้อย
- แอปพลิเคชันจากกรมการปกครองชื่อ D.DOPA นอกจากจะใช้ยืนยันตัวตนกับแอปทางรัฐแล้วยังสามารถจองคิวใช้บริการกับทางภาครัฐอย่างสำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นทั่วประเทศได้ด้วย
สำหรับการยืนยันตัวตนแอปทางรัฐด้วย D.DOPA หากเคยลงทะเบียนใช้บริการกับทางแอป D.DOPA สามารถลงทะเบียนทางรัฐด้วยการกดที่ปุ่มเข้าสู่ระบบด้วย D.DOPA ได้
- ตู้บุญเติม เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงให้สังเกตตู้ที่มีกล้องเล็กๆ ติดอยู่ที่ด้านบนของตู้ จะมีให้บริการยืนยันตัวตน e-KYC ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการกว่า 2,000 จุดทั่วประเทศ วิธีการเตรียมบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือให้พร้อม จากนั้นเลือกเมนูทางรัฐบนหน้าจอ ตู้จะแนะนำให้เสียบบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน และระบบจะส่ง SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปพลิเคชันทางรัฐได้ทันที
- ไปรษณีย์ไทยทุกสาขา โดยเตรียมบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ว่าต้องการยืนยันตัวตนแอปพลิเคชันทางรัฐ หลังจากนั้นจะได้รับ SMS ที่ส่งลิงก์เพื่อให้ดำเนินการต่อทางแอป
- เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-Eleven เพียงกดที่เมนูยืนยันตัวตนที่ 7-Eleven ระบบจะให้ระบุเลขบัตรประชาชนและหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อสร้างเป็น QR Code จากนั้นแจ้งกับพนักงานที่สาขาว่าต้องการยืนยันตัวตนแอปทางรัฐ พนักงานจะสแกน QR Code ซึ่งระบบจะส่ง SMS เพื่อให้เรายืนยันตัวตนผ่านทางแอปทางรัฐ
