วันนี้ (23 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา นันทนา นันทวโรภาส สว. เปิดเผยต่อสื่อมวลชนภายหลังผลการนับคะแนนเลือกประธานวุฒิสภาและรองประธานคนใหม่ ผู้ได้รับเสนอชื่อจากกลุ่ม ‘สว. พันธุ์ใหม่’ ไม่ได้รับเลือก โดยระบุว่า ผลที่ออกมาไม่ได้เกินความคาดหมาย และเป็นไปตามสิ่งที่สื่อมวลชนรายงาน และคะแนนที่มาในจำนวน 150-159 คะแนน ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่ามีกลุ่มก้อนดังกล่าวอยู่จริง
ขณะที่กลุ่ม สว. พันธุ์ใหม่ ได้รับคะแนนเพียง 15-19 คะแนนนั้น นันทนากล่าวว่า อาจจะเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเสียงของเราอาจจะไม่ถึง แต่เพราะการรวมตัวกันของ สว. พันธุ์ใหม่ แบบที่ยึดอุดมการณ์ ไม่ได้กำหนดเกณฑ์ว่าต้องโหวตอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเป็นเรื่องของตัวบุคคลที่จะมองว่าจะให้ความไว้วางใจ มอบคะแนนให้ใครบ้าง
อย่างไรก็ตาม นันทนาขอบพระคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้กับกลุ่ม สว. พันธุ์ใหม่ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันในการทำงานต่อไป และขอยินดีกับประมุขวุฒิสภา ซึ่งคิดว่าในอนาคตคงจะได้ร่วมกันทำงานต่อไปในบทบาทของสมาชิกวุฒิสภา และวิสัยทัศน์ใดๆ ที่ได้เสนอไป หากประมุขทั้ง 3 ท่านเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ก็ยินดีที่จะมอบให้ดำเนินการต่อ
จากนี้ สว. พันธุ์ใหม่ จะดำเนินการในเรื่องเฉพาะหน้า เช่น การพิจารณางบประมาณรายจ่ายจากสภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐบาลขอเพิ่มเติมเข้ามา รวมถึงการเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ทั้งอัยการสูงสุด และศาลปกครองสูงสุด นอกจากนี้ จะผลักดันให้มีการตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ที่ประชาชนถูกกลั่นแกล้งจากหน่วยงานรัฐ การเปิดพื้นที่ของสภาให้เป็นพื้นที่ของประชาชนได้เข้าถึงและสามารถที่จะเข้ามีส่วนร่วม
ผลเลือกประธาน สว. สะท้อนวุฒิสภาไม่เป็นอิสระจริงๆ
ขณะที่ อังคณา นีละไพจิตร สว. หนึ่งในผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 แต่แพ้คะแนนเสียงให้กับ บุญส่ง น้อยโสภณ ระบุว่า ผลดังกล่าวไม่เหนือความคาดหมาย หากสังเกต ทั้ง มงคล สุระสัจจะ ว่าที่ประธานวุฒิสภา, พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ ว่าที่รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และ บุญส่ง ทั้ง 3 ท่านก็เสนอชื่อกันเอง ก็ไม่ได้แปลกใจอะไร แต่รู้สึกดีใจที่ได้พูดในสิ่งที่อยากจะพูดแทนประชาชน เรื่องการเมืองภาคพลเมือง สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก กฎหมายของประชาชนที่เข้าชื่อ ว่าในฐานะวุฒิสภาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง
“ผลการเลือกไม่กระทบจิตใจ เพราะผ่านอะไรมาเยอะ แต่ประหลาดใจ เพราะรอบเลือกระดับประเทศก็ไม่ต่างอะไรจากครั้งนี้ คนที่มีคะแนนสูงก็สูงไปเลย”
ส่วนควรจะมีการถอดบทเรียนหลังแพ้คะแนนเสียงหรือไม่ อังคณากล่าวว่า เหมือนถูกกำหนดมาให้เป็นแบบนี้ ขึ้นอยู่กับว่าคนที่เป็นคนกำหนดจะเป็นคนชี้นำตลอดไปหรือไม่ หรือจะฟังเสียงจากคนข้างนอกหรือประชาชนบ้างหรือไม่ ส่วนตัวไม่ได้กังวล เราอยู่ตรงไหนก็ทำงานเต็มที่อยู่แล้ว
“สิ่งที่ทำให้เห็นชัดเจนในวันนี้คือความไม่เป็นอิสระ อย่างช่วงที่มีการเลือกเข้ามา เราก็รู้ในระดับหนึ่งว่ามีการจัดตั้งอย่างเข้มแข็ง แต่วันนี้แสดงให้เห็นว่าวุฒิสภามีความเป็นอิสระจริงหรือไม่ ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คะแนนจะเทไปให้คนใดคนหนึ่งจนมากแบบนี้…วันนี้ทำให้เห็นชัดเลยว่าวุฒิสภาไม่มีความเป็นอิสระจริงๆ” อังคณากล่าว
อังคณากล่าวต่อไปว่า ถ้าดูตัวบุคคลก็จะเห็นว่าแต่ละคนเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่สิ่งที่ดีใจคือวันนี้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่ยังเดินอยู่กับเรา ถือว่าดี จะได้ประมาณตนได้ว่าต่อไปหากเราจะทำอะไรคงต้องทำงานหนักขึ้น
ส่วนมีอะไรจะฝากไปถึงประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาทั้งสองหรือไม่นั้น อังคณากล่าวว่า ว่าที่ประธานและรองประธานทั้ง 3 คน คงต้องตอบคำถามประชาชน ตอนนี้คงปกปิดอะไรไม่ได้แล้วว่าทุกคนเป็นอิสระ เพราะสิ่งที่เห็นบอกกับเราว่าความเป็นอิสระของ สว. ไม่มีจริง
