×

เจาะดีลร้อน ทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด รีบทุ่มซื้อ เลนี โยโร 70 ล้านยูโร?

18.07.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 MIN READ
  • แม้โยโรจะอายุ 18 ปี แต่ก็เป็นนักเตะที่มีประสบการณ์การเล่นในระดับลีกสูงสุดกับลีลล์ในลีกเอิง ฝรั่งเศส โดยที่เป็นแกนหลักของทีมเลยทีเดียวในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง 
  • ในวงการฟุตบอลฝรั่งเศสยกย่องโยโรว่าเป็นนักเตะพรสวรรค์แห่งยุคสมัย (Generational Talent) ที่มีแววว่าจะก้าวมาเป็นเสาหลักของวงการได้ ซึ่งประเมินจากความสนใจของเรอัล มาดริด และลิเวอร์พูล เรื่องนี้ก็น่าจะมีเค้ามูลของความจริง
  • การคว้าตัวเซิร์กซีและโยโรมาแสดงให้เห็นถึงแนวทางการบริหารจัดการสโมสรที่เปลี่ยนไปในยุคใหม่

ในรอบเดือนที่ผ่านมา ทีมยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดคือ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่เพียงแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งคนบริหารในจุดสำคัญขององค์กรยุคใหม่แล้ว ตอนนี้ถึงช่วงของการเติมนักเตะที่มีความสดใหม่เข้ามาสู่ทีมด้วย

 

จาก โจชัว เซิร์กซี กองหน้าดาวรุ่งดีกรีทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ล่าสุดยักษ์หลับแห่งตำบลโอลด์แทรฟฟอร์ดกำลังจะได้ตัว เลนี โยโร ปราการหลังดาวรุ่งของดีเมืองฝรั่งเศสที่เคยตกเป็นข่าวกับลิเวอร์พูลและเรอัล มาดริด

 

แต่สิ่งที่ทำให้เกิดเครื่องหมายคำถามคือ เรื่องค่าตัวของเด็กที่อายุเพียง 18 ปีคนนี้ 

 

70 ล้านยูโรเป็นตัวเลขที่ถูกต้องและเหมาะสมแล้วจริงหรือไม่? และการเดินหน้าดีลนี้สะท้อนให้เห็นอะไรบ้างในการเปลี่ยนแปลงของแมนฯ ยูไนเต็ด

 

 

เจาะลึกดีลร้อน

 

ชื่อของ เลนี โยโร เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าเป็นนักเตะที่อยู่ในความสนใจของหลายสโมสร

 

โดยเฉพาะการที่สองทีมระดับท็อปที่มีประวัติในการกวาดต้อนดาวรุ่งฝีเท้าดีเข้าสู่ทีมอย่างลิเวอร์พูลและเรอัล มาดริด ซึ่งเปิดศึกชิงตัวกันอีกแล้วนั้น พอจะเป็นเครื่องการันตีได้ว่านักเตะคนนี้น่าจะพอมีของดีติดตัวอยู่มากพอสมควร เพราะก่อนหน้านี้นักเตะที่ทั้งสองทีมแย่งตัวกันคือ โอเรเลียง ชูอาเมนี และ จูด เบลลิงแฮม ซึ่งแน่นอนว่าเจ้ายุโรปจากสเปนเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะไปทั้งคู่

 

สำหรับรายของโยโร ความเดิมตอนที่แล้วเรื่องก็น่าจะจบในแบบเดียวกัน เพราะถึงลิเวอร์พูลจะสนใจและพร้อมทุ่มเงินก้อนใหญ่ให้ลีลล์ ซึ่งเป็นต้นสังกัด แต่หนุ่มน้อยวัย 18 กะรัตดูจะมีใจย้ายไปเล่นในซานติอาโก เบอร์นาบิว ที่กลายเป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางของนักเตะอีกครั้ง

 

ความได้เปรียบนี้ทำให้เรอัล มาดริด ไม่ได้รีบร้อนใจอะไร เพราะมั่นใจว่าดาวรุ่งรายนี้จะเลือกพวกเขาแน่นอน อยู่ที่ว่าจะจัดการปิดดีลให้ได้ในฤดูร้อนนี้ หรือจะรอจนกว่าจะถึงฤดูร้อนหน้า ซึ่งโยโรจะหมดสัญญากับลีลล์พอดี

 

ตรงนี้เองที่กลายเป็นจุดพลิกผันของเรื่องราว

 

แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การบริหารของ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ – ซึ่งได้ แดน แอชเวิร์ธ มือดีจากนิวคาสเซิล มานั่งตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรจนได้ – ได้เข้าร่วมวงในการเจรจาด้วย โดยที่ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

 

ช่วงวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมแรกที่สามารถบรรลุข้อตกลงกับลีลล์ได้สำเร็จด้วยตัวเลขที่น่าตกใจ

 

ค่าตัวของโยโรสูงถึง 70 ล้านยูโรด้วยกัน แม้ว่าจะแบ่งเป็นการชำระเงินก้อนหลัก 62 ล้านยูโร (ออปชันอีก 8 ล้านยูโร) ก็ยังดูค่อนข้างสูงมากอยู่ดีเมื่อเทียบกับวัยและประสบการณ์ของผู้เล่น ขณะที่ค่าเหนื่อยที่เด็กคนนี้จะได้รับมีรายงานว่าสูงถึง 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เป็นเงินค่าตัวที่เท่ากับผู้เล่นระดับซีเนียร์

 

ทำไมแมนฯ ยูไนเต็ด ถึงยอมทุ่มขนาดนี้?

 

 

ฟาน ไดจ์ค แห่งแดนน้ำหอม

 

ก่อนหน้าจะปิดดีลโยโร – ซึ่งเข้ารับการตรวจร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว – แมนฯ ยูไนเต็ด มีข่าวว่าให้ความสนใจในตัวของ จาร์รัด บรันธ์เวต ปราการหลังดาวรุ่งของเอฟเวอร์ตัน และ มัตไธส์​ เดอ ลิกต์ กองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ของบาเยิร์น มิวนิก มาก่อน แต่ไม่มีความคืบหน้า

 

ต่างจากกรณีของโยโรที่มีข่าวแค่ไม่กี่วันทุกอย่างดูจะจบลงอย่างรวดเร็ว

 

อาการเร่งร้อนของแมนฯ ยูไนเต็ด นั้นเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะทีมกำลังอยู่ในช่วงของการเตรียมความพร้อมสำหรับการต่อสู้ศึกในฤดูกาลใหม่ และนักเตะรายนี้มีคู่แข่งที่ถือว่าแข็งแกร่งอย่างมาก นอกจากลิเวอร์พูลกับ เรอัล มาดริดแล้ว ยังมีปารีส แซงต์ แชร์กแมงด้วย จึงต้องเร่งเจรจาโดยเร็ว

 

แต่เรื่องของค่าตัวมหาศาลนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจ

 

อย่างแรก โยโรแม้จะอายุ 18 ปี แต่ก็เป็นนักเตะที่มีประสบการณ์การเล่นในระดับลีกสูงสุดกับลีลล์ในลีกเอิง ฝรั่งเศส โดยที่เป็นแกนหลักของทีมเลยทีเดียวในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ลงเล่น 20 จาก 22 นัดหลังสุดของฤดูกาล และมีส่วนในการทำให้ทีมจบด้วยการเป็นทีมอันดับที่ 4 ได้ไปแชมเปียนส์ลีก

 

ลีลล์ยังเป็นทีมที่มีสถิติการเล่นเกมรับดีเป็นอันดับ 3 ของลีกเอิง โดยเสียไป 34 ประตูเท่านั้นตลอดฤดูกาล

 

สไตล์การเล่นของเด็กคนนี้เป็นบอลกองหลังเชิงสูง เก่งกาจในเรื่องของการอ่านจังหวะเกมและเข้าตัดเกมในช่วงเวลาที่ถูกต้อง เหมาะสม โดยจะยืนเป็นกองหลังตัวสุดท้ายในไลน์ ที่คอยอ่านทางของแนวรุกคู่แข่งและปรี่เข้าสกัดเป็นตัวสุดท้าย

 

ด้วยสไตล์ดังกล่าว รูปร่างที่สูงใหญ่ และมีความเยือกเย็น อีกทั้งมีความคล่องตัวสูง ทำให้มีการเปรียบเทียบว่าคล้ายกับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ยักษ์สีส้มของลิเวอร์พูล โดยเฉพาะในช่วงก่อนที่จะบาดเจ็บหนักที่เอ็นหัวเข่า ซึ่งเป็นช่วงที่กัปตัน ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ท็อปพีคที่สุดในชีวิต

 

 

นอกจากนี้ยังมีความสามารถที่จะเปิดเกมจากแดนหลังได้ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับฟุตบอลสมัยใหม่ที่ใช้บอลไดเรกต์ หรือบอลทางตรงจู่โจมคู่แข่งอย่างรวดเร็ว 

 

ในวงการฟุตบอลฝรั่งเศสยกย่องโยโรว่าเป็นนักเตะพรสวรรค์แห่งยุคสมัย (Generational Talent) ที่มีแววว่าจะก้าวมาเป็นเสาหลักของวงการได้ ซึ่งประเมินจากความสนใจของเรอัล มาดริด และลิเวอร์พูล เรื่องนี้ก็น่าจะมีเค้ามูลของความจริง

 

ที่สำคัญคือโยโรมีโอกาสจะเป็นนักเตะในกลุ่มนักเตะท้องถิ่น (Homegrown) ได้เมื่ออยู่กับสโมสรครบอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งโควต้าตรงนี้สำคัญอย่างมากสำหรับสโมสรฟุตบอล

 

ย้อนกลับไปในปี 2019 อาร์เซนอลก็เคยทุ่มเงิน 27 ล้านปอนด์เพื่อขอซื้อ วิลเลียม ซาลิบา ในวัยเท่ากันคือ 18 ปี และให้แซงต์-เอเตียง สโมสรต้นสังกัดเดิม ยืมใช้งานไปก่อนเพื่อพัฒนาการที่ดีของนักเตะ ปัจจุบันซาลิบาคือหนึ่งในกองหลังที่เก่งที่สุดของโลกไปแล้ว

 

เพื่อที่จะให้ได้เด็กเทพมา แมนฯ ยูไนเต็ด จึงต้องใช้ความพยายามมากเป็นพิเศษด้วยการทุ่มข้อเสนอให้กับลีลล์รีบพิจารณา โดยต้องเป็นข้อเสนอที่ไม่มีคู่แข่งสู้ไหวด้วย นั่นจึงเป็นที่มาของตัวเลขรวม 70 ล้านยูโร ซึ่งสโมสรจากลีกเอิงยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เช่นนั้นพวกเขามีโอกาสต้องถูกบีบให้ขายในราคาที่ต่ำกว่าที่คาดหวัง หรือร้ายที่สุดคือเสียนักเตะคนนี้ไปแบบฟรีๆ ในฤดูกาลหน้า

 

ขณะที่นักเตะเองแม้จะมีข่าวว่าอยากไปเรอัล มาดริด แต่ข้อเสนอจากแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ทำให้หวั่นไหวได้เหมือนกัน 

 

เรียกได้ว่าเป็นการใช้เงินแก้ปัญหาของแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ว่าได้ 

 

 

ปีศาจแดงยุคใหม่ไม่ธรรมดา

 

ความจริงการคว้าตัว โจชัว เซิร์กซี มาร่วมทีมก่อนหน้านี้ก็เป็นการส่งสัญญาณบางอย่างถึงโลกฟุตบอลแล้ว แต่การเตรียมคว้าตัว เลนี โยโร มาอีกคนเป็นการบีบแตรบอกให้โลกรู้แบบเต็มๆ ว่าแมนฯ ยูไนเต็ด ที่นายล้อพร้อมจะกลับมาล่อแข้งทุกคนแล้ว

 

การคว้าตัวเซิร์กซีและโยโรมาแสดงให้เห็นถึงแนวทางการบริหารจัดการสโมสรที่เปลี่ยนไปในยุคใหม่ซึ่ง เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ไปกระชากตัวขุนพลมือดีจากหลายสโมสรมาประจำในจุดต่างๆ อย่างที่สโมสรยุคใหม่สมควรจะเป็น

 

เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลนักเตะในงาน Recruitment เป็นหน้าที่หลักของ แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการกีฬาที่แมนฯ ยูไนเต็ด รอคอย โดยจะทำงานร่วมกับ เจสัน วิลค็อกซ์ อดีตสตาร์พรีเมียร์ลีกยุคบุกเบิกที่อยู่ในบทผู้อำนวยการเทคนิค

 

ในดีลของโยโรยังมีการเผยรายละเอียดด้วยว่า สโมสรใช้วิธีการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ซึ่งจะกินระยะเวลา 5 ปี ทำให้ไม่กระทบต่อสถานะทางการเงินและบัญชีของสโมสรมากนัก ดังนั้นถึงจะดูเหมือนแพง แต่เป็นตัวเลขที่สโมสรแบกรับไหว

 

หรือจะมองว่าการเดินเครื่องคว้าตัวโยโรยังเกิดขึ้นหลังจากที่แมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อย เมสัน กรีนวูด ให้กับโอลิมปิก มาร์กเซย ในราคา 30 ล้านยูโร (พร้อมออปชันส่วนแบ่งอีก 50 เปอร์เซ็นต์หากขายออกไปในอนาคต) ก็เท่ากับมีส่วนต่างของโยโรแค่ 40 ล้านยูโรเท่านั้น ซึ่งแมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีแผนจะปล่อยนักเตะอีกหลายคนที่คิดว่าไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ เอริก เทน ฮาก ออกไป

 

ไม่ว่าจะเป็น สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, มาร์คัส แรชฟอร์ด, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี แม็กไกวร์ ที่คาดว่าจะทำเงินกลับมาให้สโมสรได้อีกพอสมควร ที่จะเป็นต้นทุนการซื้อนักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพต่อ

 

เรียกว่าแค่ระยะเวลา 1-2 เดือน เราพอมองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในการบริหารงานของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ดูแตกต่างจากยุคก่อนหน้านี้ชนิดคนละเรื่อง โดยที่เรายังไม่ได้พูดถึงการลดจำนวนลูกจ้างของสโมสรลงอีก 250 ตำแหน่งที่จะช่วยให้สโมสรประหยัดเงินได้อีกมหาศาล

 

ตอนนี้เหลืออย่างเดียวที่จะทำให้ทุกคนกลับมายิ้มได้คือ การทำให้ทีมกลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง สมกับเป็นทีมเบอร์หนึ่งของอังกฤษ

 

หน้าที่นี้เป็นของเทน ฮาก ที่หากทำไม่ได้ ก็มีคนที่พร้อมรอรับช่วงต่อทันที

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising