×

ฝรั่งเศสกับปัญหาใหญ่ ‘ไก่ไม่ขัน’ ยังหวังแชมป์ยูโร 2024 ได้ไหม?

09.07.2024
  • LOADING...

“ถ้าคิดว่าเราเล่นน่าเบื่อ ก็เปลี่ยนไปดูอย่างอื่นสิ” คำพูดของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ นายใหญ่ทีมชาติฝรั่งเศส กลายเป็นคำที่ถูกใช้ในพาดหัวข่าวตัวไม้ก่อนที่พลพรรค ‘เลส์ เบลอส์’ จะลงสนามในเกมรอบตัดเชือกกับทีมชาติสเปนในคืนนี้

 

ความจริงแล้วบทสนทนานี้เป็นการโต้ตอบหยอกเอิน (ปนหยิกนิดหนึ่ง) ระหว่างเดส์ชองส์ กับผู้สื่อข่าวชาวสวีเดน ที่ตั้งคำถามถึงปัญหาคาใจสำหรับหลายคนที่ผิดหวังกับผลงานของทีมชาติฝรั่งเศสในยูโร 2024 ที่ยังไม่สามารถทำประตูจากการเล่นปกติ หรือที่เรียกว่า ‘โอเพนเพลย์’ ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว

 

ทั้งๆ ที่มองกันในเรื่องของ ‘คุณภาพ’ ผู้เล่นแล้ว ฝรั่งเศสถือเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของการแข่งขัน

 

การที่ ‘ไก่ไม่ขัน’ แบบนี้มันเกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่ และพวกเขายังมีโอกาสลุ้นถึงแชมป์ยูโร 2024 อยู่ไหม?

 

 

เส้นทางของทีมชาติฝรั่งเศสในฟุตบอลยูโรหนนี้ต้องบอกว่าหนืดและเหนื่อยกว่าที่ใครหลายคนคิด

 

โดยเฉพาะในรอบแรก เมื่อเอาชนะออสเตรียได้แบบหวุดหวิดในเกมแรก 1-0 พวกเขาทำได้เพียงแค่เสมอกับโปแลนด์และเนเธอร์แลนด์ด้วยสกอร์ 1-1 ทั้งสองนัด

 

ก่อนจะเฉือนเบลเยียมแบบลุ้นระทึกกว่าจะได้ประตูก็ต้องรอจนถึงช่วงท้ายเกมก่อนหมดเวลา 5 นาที ก่อนจะผ่านด่านโปรตุเกสมาได้ด้วยการดวลจุดโทษชนะ หลังเสมอกันในเวลา 120 นาทีแบบทำอะไรกันไม่ได้

 

ผลงานดังกล่าวแม้ว่าจะเป็นที่น่าพอใจในการเดินทาง แต่เรื่องราวระหว่างทางไม่เป็นที่ประทับใจของแฟนบอลและสื่อมวลชนมากนัก และนั่นนำไปสู่คำถามของผู้สื่อข่าวชาวสวีเดนที่เป็นตัวแทนถามคำถามคาใจของใครหลายคนว่าทำไมทีม ‘เลส์ เบลอส์’ ที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ถึงเล่นได้น่าผิดหวังแบบนี้

 

ทีมที่มี คีเลียน เอ็มบัปเป, มาร์คัส ตูราม, อองตวน กรีซมันน์,​ อุสมาน เดมเบเล, ร็องดาล โคโล มัวนี และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กลับยิงใครด้วยฝีเท้าตัวเองไม่ได้เลย

 

3 ประตูที่ได้มาใน 5 เกมที่ลงสนาม ได้มาจาก 1 จุดโทษ และ 2 ลูกเข้าประตูตัวเองเท่านั้น

 

ปัญหาของฝรั่งเศสอยู่ตรงไหน? และมันเป็นปัญหาจริงๆ หรือเปล่า?

 

 

สิ่งที่เป็นดัชนีชี้วัดได้ดีในเรื่องนี้คือการมองไปยังเรื่องการสร้างสรรค์เกมรุก โดย 5 นัดที่ผ่านมาทีมชาติฝรั่งเศสมีสถิติดังนี้

 

  • สร้างโอกาสในการยิงจากทั้งในกรอบเขตโทษและนอกกรอบเขตโทษ (ไม่นับจุดโทษและลูกเข้าประตูตัวเองของคู่แข่ง) ได้ทั้งหมด 86 ครั้ง

 

  • ตัวเลข 86 ครั้งนี้ทำให้เป็นทีมที่มีโอกาสยิง (Shots) สูงเป็นอันดับที่ 4 ของยูโร 2024 (ทีมที่สร้างโอกาสยิงมากที่สุดคือสเปน 100 ครั้ง)

 

  • ในบรรดา 4 ทีมที่ผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศ ฝรั่งเศสมีโอกาสยิงมากกว่าเนเธอร์แลนด์ (74) และอังกฤษ (58)

 

  • โอกาส 86 ครั้งนี้มี 12 ครั้งที่ถือเป็นโอกาสได้ประตูสูง (Big Chances) ที่จะได้ประตู คิดเป็นอันดับที่ 5 ของการแข่งขันนับจนถึงตอนนี้ มากกว่าโครเอเชีย (11),​ จอร์เจีย, ฮังการี และอิตาลี (10) ซึ่งทั้งหมดที่พูดไม่มีทีมไหนผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้

 

  • แต่โอกาสได้ประตูสูง 12 ครั้ง ซึ่งคิดเป็น 13.8 เปอร์เซ็นต์ของโอกาสทั้งหมดนั้น ถือเป็นค่าเฉลี่ยที่ไม่ดีนัก เหนือกว่าทีมอื่นแค่ 7 ทีม

 

  • ค่าคาดหวังได้ประตู (Expected Goals: xG) ของฝรั่งเศสตลอด 5 เกม อยู่ที่ 7.3 การที่ยิงประตูจากโอเพนเพลย์ไม่ได้เลยสะท้อนให้เห็นถึงการใช้โอกาสอย่างสิ้นเปลืองเปล่าประโยชน์

 

  • ผู้เล่นที่สร้างโอกาสให้เพื่อนมากที่สุด 2 คนในทีมคือ ชูลส์ กุนเด (11 ครั้ง) และ เอ็นโกโล ก็องเต (10 ครั้ง)

 

จากสถิติดังกล่าวที่รวบรวม The Analyst (Stats Perform) สำนักสถิติอันดับหนึ่งของโลกฟุตบอล พอจะมองเห็นว่าปัญหาของฝรั่งเศสในเกมรุก น่าจะเป็นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ในการเล่น (Creativity) เพราะการที่กุนเดหรือก็องเตสร้างโอกาสได้มากกว่าคนอื่นในแนวรุก แปลว่าแนวรุกกำลังมีปัญหา

 

เดส์ชองส์อาจจะจำเป็นที่จะต้องหาใครสักคนที่เป็นผู้ถือกุญแจมาไขเปิดประตูให้จินตนาการของเลส์ เบลอส์ ได้รับการปลดปล่อย

 

จุดที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ เลอ เซเล็กซิยอนเนอร์ อาจจะค้นพบคำตอบบางอย่างจากเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อนักเตะที่ประเดิมเกมแรกในฐานะตัวจริงก่อนกลายเป็นตัวสำรองอย่าง อุสมาน เดมเบเล ลงมาสร้างสีสันให้ทีมได้ดี

 

ในเกมกับโปรตุเกส เดมเบเลลงมาสร้างโอกาสได้ถึง 6 ครั้ง ซึ่งเป็นที่คาดว่าเขาจะได้โอกาสในการลงสนามแทนที่ อองตวน กรีซมันน์ ที่เล่นไม่ออกเลยในรายการนี้ แม้ว่าเดส์ชองส์จะพยายามหมุนเวียนตำแหน่งของเขาถึง 3 ตำแหน่ง เพื่อหาทางช่วยให้นักเตะที่เป็นคีย์แมนในเกมรุกของทีมสร้างสรรค์เกมได้อย่างที่คาดหวังก็ตาม

 

แต่กรีซมันน์ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ประสบปัญหา

 

 

เอ็มบัปเปในฐานะกองหน้าเบอร์หนึ่งเองก็เจอสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เมื่อดั้งจมูกหักตั้งแต่เกมแรก ซึ่งแม้จะมีการรักษาเบื้องต้นให้กลับมาลงเล่นได้โดยสวมหน้ากากป้องกัน แต่การบาดเจ็บครั้งนี้ส่งผลต่อสภาพร่างกายและความมั่นใจไม่น้อย

 

ว่าที่กองหน้าเรอัล มาดริด มีโอกาสยิง 20 ครั้ง จาก 4 นัดที่ได้ลงสนาม แต่ประตูเดียวของเขามาจากการยิงจุดโทษ ซึ่งเป็นฟอร์มที่แตกต่างจากในฟุตบอลโลก 2022 ที่จบด้วยการเป็นดาวซัลโวและยิงแฮตทริกได้ในนัดชิงชนะเลิศอย่างเห็นได้ชัด

 

หนึ่งในประเด็นที่เอ็มบัปเปบอกคือเขาคิดถึงการผ่านบอลของ พอล ป็อกบา ที่ไม่ต้องทำอะไร “แค่หันไปมองแล้ววิ่งไปที่ว่าง บอลก็จะมาถึงเท้า” แต่ในความจริงแล้วกองกลางที่โดนโทษแบน 4 ปีจากการใช้สารกระตุ้น ก็ไม่ได้เล่นในฟุตบอลโลก 2022 แต่อย่างใด

 

ขณะที่ตูรามรุ่นลูก กับโคโล มัวนี ก็คาดหวังอะไรไม่ได้เหมือนกัน

 

เดส์ชองส์เองรับรู้ปัญหา และบอกตั้งแต่หลังจบเกมกับโปรตุเกสแล้วว่า “เราจำเป็นต้องทำประตูให้ได้มากกว่านี้ ถ้าเราทำประตูได้มาก เราจะจัดการอะไรได้เอง แต่ถ้าเรายิงไม่ได้ เราก็ต้องหวังความเมตตาจากคู่แข่ง”

 

สิ่งที่ดีที่สุดในทีมฝรั่งเศสชุดนี้คือเกมรับที่ทั้งผู้รักษาประตูอย่าง ไมค์ เมญอง และไลน์แบ็กโฟร์ที่ประกอบไปด้วย เตโอ แอร์กน็องเดซ, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, วิลเลียม ซาลิบา และ ชูลส์ กุนเด เล่นได้อย่างแข็งแกร่งอย่างมาก โดยมีกองกลางอย่าง โอเรเลียง ชูอาเมนี และ เอ็นโกโล ก็องเต คอยเก็บงานให้อีกแรง

 

เขาว่าเกมรุกจะทำให้ทีมชนะ แต่เกมรับจะทำให้ทีมเป็นแชมป์

 

แต่ให้ดี เดส์ชองส์และแฟนเลส์​ เบลอส์ คงไม่อยากโยนทุกอย่างให้เป็นภาระของเกมรับอย่างเดียว เพราะสเปน คู่แข่ง ช่างร้อนแรงเกินห้ามใจ

 

อะไรก็ได้ ใครก็ได้ กองหน้าทั้งหลายช่วยยิงทีเถอะ!

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising