×

11 นักเตะผู้อาภัพ กับโอกาสลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่หลุดลอยไป

06.06.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

8 Mins. Read
  • 32 ชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 เริ่มเปิดไพ่ 23 ขุนพลสุดท้ายที่เตรียมไปทำฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียอย่างเป็นทางการแล้ว
  • การประกาศผู้สมหวัง แน่นอนต้องมีผู้ผิดหวัง โดยรายชื่อผู้ที่ผิดหวังในครั้งนี้มีทั้ง เลรอย ซาเน นักเตะเยาวชนยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก, ลาปอร์เต กองหลังราคา 57 ล้านปอนด์, เนียงโกลัน กองกลาง และโรมา ผู้พิชิตบาร์ซาในยูฟ่าแชมเปียนลีกส์ฤดูกาลที่ผ่านมา ที่หมดสิทธิ์เข้าร่วมฟุตบอลโลกในครั้งนี้
  • ต่างคนต่างสาเหตุ แต่คนที่น่าสงสารที่สุดน่าจะเป็น เซร์คิโอ เปนญ่า กลางรุกของเปรู ที่ต้องหลีกทางให้กับ เปาโล เกอร์เรโร ดาวยิงวัย 34 ปี ฮีโร่ที่พ้นโทษแบนกลับมารับใช้ชาติในศึกฟุตบอลได้อย่างเฉียดฉิว

หลังจากที่มีการประกาศรายชื่อ  23 นักฟุตบอลที่จะได้รับโอกาสทำหน้าที่รับใช้ทีมชาติในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งถือว่าเป็นความฝันของนักเตะทั่วโลกที่จะได้สัมผัสโอกาสสำคัญในครั้งนี้ และแน่นอนว่าเมื่อมีคนสมหวังก็ต้องมีคนผิดหวัง และวันนี้ THE STANDARD ได้รวบรวม 11 รายชื่อผู้เล่นที่ดูไม่น่าพลาดตั๋วรถไฟขบวนสุดท้ายไปร่วมศึกฟุตบอลโลกในครั้งนี้

 

 

1. โจ ฮาร์ต ผู้รักษาประตู (อังกฤษ)

31 ปี / เวสต์แฮม ยูไนเต็ด / ติดทีมชาติ 75 / ประตู 0

 

เริ่มกันที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู แน่นอนว่าทีมชาติอังกฤษชุดนี้เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามกับการเลือกนักเตะหน้าใหม่ไร้ประสบการณ์มาแข่งขันศึกฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดในโลก โดยการตัดรายชื่อ โจ ฮาร์ต หนึ่งในนักเตะที่ไม่น่าหลุดจากรายชื่อ 23 คนในครั้งนี้

 

จากผลงานออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 9 ใน 10 เกมรอบคัดเลือกของทีมชาติอังกฤษ แต่สุดท้ายรายชื่อของเขาก็ไม่มีอยู่ใน 23 ผู้เล่นคนสุดท้าย แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่คงเส้นคงวากับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในฤดูกาลที่ผ่านมา เสีย 10 ประตูในการลงสนาม 3 นัดแรกให้กับทีม ส่งผลให้ จอร์แดน พิกฟอร์ด, แจ็ค บัตแลนด์ และนิค โป๊ป ที่ฉายแววได้เด่นกว่าในศึกพรีเมียร์ลีกรับสิทธิ์ไปแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้แทน

 

 

2. เฮกเตอร์ เบเยริน แบ็กขวา (สเปน)

23 ปี / อาร์เซนอล / ติดทีมชาติ 3 / ประตู 0

 

เป็นอีกหนึ่งรายชื่อของนักเตะจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่พลาดโอกาสไปแข่งขันฟุตบอลโลกให้กับทีมชาติของตัวเอง แม้ว่าเฮกเตอร์จะเป็นกำลังสำคัญของทีมใหญ่อย่างอาร์เซนอล ด้วยผลงานของสโมสรที่ไม่สม่ำเสมอ รวมถึงอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าระหว่างฤดูกาล และตัวเลือกที่โดดเด่นชัดเจนกว่าอย่าง ดานี การ์บาฆาล ของเรอัล มาดริด และเซซาร์ อัซปิลิกวยตา จากเชลซี ทำให้เขาหลุดจากรายชื่อ 23 ผู้เล่นคนสุดท้ายของ ยูเลน โลเปเตกี ผู้จัดการทีมชาติสเปน ที่จะเดินทางไปรัสเซีย

 

 

3. ไอเมอริก ลาปอร์เต กองหลัง (ฝรั่งเศส)

24 ปี / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / ติดทีมชาติ 0 / ประตู 0

 

ดาวดวงเด่นที่มาพร้อมกับป้ายราคา 57 ล้านยูโรที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ควักจ่ายให้กับแอธเลติก บิลเบา เมื่อช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อนำพาเขามาเป็นส่วนหนึ่งของแชมป์พรีเมียร์ลีกผู้ทำลายสถิติ 100 คะแนนในฤดูกาลเดียว น่าจะเป็นการบ่งบอกถึงคุณภาพคับแก้วที่กองหลังวัย 24 ปีคนนี้มี

 

แม้ว่าก่อนหน้านี้ในปี 2016 มีรายงานว่าเขาอาจตัดสินใจเลือกเล่นให้กับทีมชาติสเปน แต่สุดท้ายทีมชาติฝรั่งเศสก็ตัดสินใจเรียกตัวเขาติดทีมชาติมาเตรียมพร้อมสำหรับฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกกับบัลแกเรียและเนเธอร์แลนด์ในเดือน ตุลาคม 2016 ทำให้เขาตัดสินใจเลือกเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศส แต่ก็ยังไม่ได้รับโอกาสลงสนามในฟุตบอลโลกครั้งนี้

 

 

4. ดาวิด ลุยซ์ กองหลัง (บราซิล)

31 ปี / เชลซี / ติดทีมชาติ 52 / ประตู 3

 

กลายเป็นอีกหนึ่งนักเตะจากพรีเมียร์ลีก และหนึ่งในสมาชิกของบราซิลชุดที่พ่ายให้กับเยอรมนีไป 7-1 ในศึกฟุตบอลโลก ปี 2014 ที่ประเทศบราซิล ที่พลาดโอกาสลงแก้ตัวในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วยสถานการณ์ของสโมสรเชลซี ต้นสังกัด ที่ฤดูกาลนี้จบพรีเมียร์ลีกในอันดับที่ 5  

 

ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะด้วยประสบการณ์และสีสันที่เขามักสร้างให้กับทีม ทำให้เขาน่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีโอกาสเป็นขุมกำลังสำคัญในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ แต่สุดท้ายก็เป็นนักเตะอย่าง เปโดร เกโรเมล กองหลังวัย 32 ปี จากเกรมิโอที่คว้าสิทธิ์ไปแทน และทำให้ลุยซ์น่าจะปิดฉากกับทีมชาติบราซิลในศึกฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการ เนื่องจากครั้งต่อไปที่กาตาร์ในปี 2022 เขาจะมีอายุ 35 ปี

 

 

5. อเล็กซ์ ซานโดร แบ็กซ้าย (บราซิล)

27 ปี / ยูเวนตุส / ติดทีมชาติ 10 / ประตู 0

 

แม้ว่าจะเป็นที่ต้องการตัวในตลาดซื้อขายนักเตะของยุโรป แต่ความสามารถของเขากลับไม่เป็นที่ต้องการในศึกฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้ของทีมชาติบราซิล แม้ว่าจะถูกเรียกตัวใช้งานจากติเต้ แต่ผลงานยังไม่เข้าตา จึงไม่มีชื่อติด 23 คนไปร่วมศึกฟุตบอลโลกในครั้งนี้ นอกจากนี้ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของมาร์เซโล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 3 สมัยล่าสุดจากเรอัล มาดริด ก็อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่เขาไม่ได้แพ็กกระเป๋าไปรัสเซียในครั้งนี้  

 

 

6. เลรอย ซาเน ปีก (เยอรมนี)

22 ปี / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / ติดทีมชาติ 12 / ประตู 0

 

นับเป็นหนึ่งในข่าวใหญ่ของศึกฟุตบอลโลก 2018 เมื่อบอสใหญ่ของอินทรีเหล็กเยอรมนี แชมป์เก่า ซึ่งต้องพบเจอกับปัญหาที่กุนซือหลายคนต้องอิจฉาคือขุมกำลังที่แข็งแกร่งจนเบียดนักเตะเจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก 2018 และสมาชิกแชมป์พรีเมียร์ลีก 2018 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของสถิติ 14 ประตู 19 แอสซิสต์ เลรอย ซาเน หลุดจากรายชื่อ 23 นักเตะสุดท้าย

 

โดย โยอาคิม เลิฟ ถึงกับต้องออกมาให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุการตัดสินใจครั้งนี้ว่า “เป็นการตัดสินใจที่ยากมากระหว่างซาเน กับยูเลียน บรันด์ท และดรักซ์เลอร์ รอยส์ ที่ติดทีมชาติแน่นอน แต่เชื่อว่าเขาจะกลับมารับใช้ทีมในอนาคตอย่างแน่นอน”

 

 

7. รัดยา เนียงโกลัน กองกลาง (เบลเยียม)

30 ปี / โรมา / ติดทีมชาติ 30 / ประตู 6

 

โปรไฟล์กับสโมสรโรมาในฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยการพลิกกลับมาล้มเต็งแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอย่างบาร์เซโลนายิงประตูใส่ทีมรองแชมป์อย่างลิเวอร์พูล แน่นอน เขาคือนักเตะที่เหมาะสมจะได้รับสิทธิ์ไปแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ แต่สุดท้าย โรแบร์โต มาร์ติเนซ ก็ตัดชื่อเขาออกจาก 23 ผู้เล่นที่จะเป็นตัวแทนไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย โดยมาร์ติเนซยอมรับว่าเนียงโกลันคือนักเตะคุณภาพ แต่ให้เหตุผลว่าการตัดชื่อเขาว่าเป็นเรื่องของแท็กติก

 

“เรารู้ว่าเนียงโกลันคือนักเตะในตำแหน่งสำคัญของสโมสร แต่เราไม่สามารถให้ตำแหน่งนั้นกับเขาได้ในทีมของเรา”

 

ผลที่ตามมาจากเหตุผลทางแท็กติก ทำให้นักเตะวัย 30 ปีประกาศอำลาทีมชาติเบลเยียมอย่างเป็นทางการ ยุติบทบาทการรับใช้ชาติไว้ที่ 30 ครั้ง 6 ประตู พร้อมกับข้อความ

 

“ไม่อยากให้หน้าที่ในทีมชาติของผมต้องยุติลง ผมทำอย่างเต็มที่แล้วในการรับใช้ทีมชาติมาโดยตลอด ต่อจากวันนี้ไปผมจะเป็นแฟนตัวยงของพวกเขาแทน”

 

 

8. อาเดรียง ราบิโอต์ กองกลาง (ฝรั่งเศส)

23 ปี / ปารีส แซงต์ แชร์กแมง / ติดทีมชาติ 6 / ประตู 0

 

นอกจากรายงาน 23 ผู้เล่นที่ไม่มีรายชื่อเขาแล้ว สิ่งที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือรายงานที่ว่าราบิโอต์เขียนถึงสมาคมฟุตบอลฝรั่งเศส ขอปฏิเสธที่จะมีรายชื่ออยู่ในทีมสำรอง 11 คนที่ทีมชาติฝรั่งเศสสามารถเรียกใช้ในกรณีที่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บ โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถตามโปรแกรมฝึกซ้อมได้ ซึ่งส่งผลให้ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ไม่พอใจกับความไม่เป็นมืออาชีพของราบิโอต์มาก

 

“แน่นอน ผมตกใจมาก ผมเข้าใจความผิดหวังของเขา แต่ผมเชื่อว่าเขาตัดสินใจผิดอย่างร้ายแรง และหวังว่าจะช่วยให้เขาเติบโตขึ้นและคิดมากขึ้น

 

“เพราะเมื่อคุณเล่นในระดับสูงสุด คุณไม่สามารถให้อารมณ์มาอยู่เหนือการตัดสินใจ ผมตกใจเพราะว่าเขาเป็นนักเตะที่อายุน้อยและติดทีมชาติเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น”

 

 

9. เชส ฟาเบรกาส กองกลาง (สเปน)

31 ปี / อาร์เซนอล / ติดทีมชาติ 110 / ประตู 15

 

หนึ่งในกองกลางที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่อาร์เซนอล จนย้ายไปบาร์เซโลนา และกลับมาเชลซี ด้วยผลงานกับทั้ง 3 สโมสร และครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าจะกลายเป็นตัวหลักของทีมชาติสเปนในอนาคต นอกจากนี้ครั้งหนึ่งเขายังเคยถูกจับไปเล่นหน้าเป้าในระบบ False 9 ในวันที่ทีมชาติสเปนขาดกองหน้าตัวจบสกอร์ในศึกฟุตบอลยูโร ปี 2012 ซึ่งพาสเปนคว้าแชมป์ในนั้นอีกด้วย

 

แต่มาถึงวันนี้ที่เวลาเปลี่ยน สเปนเปลี่ยน และตัวเขาเปลี่ยน ทำให้วันหนึ่งเขากลับไม่เป็นที่ต้องการ แต่หากเรามองไปท่ีขุมกำลังในแดนกลางของสเปน ไล่ตั้งแต่อันเดรส อิเนียสตา, ติอาโก อัลคันทารา และดาบิด ซิลบา การตัดสินใจของ ยูเลน โลเปเตกี ผู้จัดการทีมชาติสเปน ก็คงไม่ถึงกับไม่มีเหตุผล

 

 

10. เมาโร อิคาร์ดี กองหน้า (อาร์เจนตินา)

25  ปี / อินเตอร์ มิลาน / ติดทีมชาติ 4 / ประตู 0

 

29 ประตูจาก 34 เกมในฐานะกัปตันทีมอินเตอร์ มิลาน สำหรับฟุตบอลเซเรียอา อิตาลี ฤดูกาลที่ผ่านมา คงไม่ต้องมานั่งบอกใครอีกว่าเขาอันตรายแค่ไหนหน้ากรอบเขตโทษ แต่สุดท้ายด้วยสกอร์นี้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเบียดขึ้นเครื่องไปรัสเซียพร้อมกับทีมของฮอร์เก ซามเปาลี

 

แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งการตัดสินใจที่พอเข้าใจได้ เนื่องจากตำแหน่งในแดนหน้าของอาร์เจนตินาอาจเบียดเข้าไปแย่งยากพอๆ กับการจองตั๋วไปดูเดี่ยว 12 ของโน้ส อุดม ในเวลานี้ด้วยรายชื่ออย่าง ลิโอเนล เมสซี, เปาโล ดีบาลา, เซร์คิโอ อเกวโร และกอนซาโล อิกวาอิน ทำให้อิคาร์ดีอาจต้องรออีก 4 ปีในการพิสูจน์ตัวเองในเวทีที่ใหญ่ที่สุดในโลกฟุตบอล

 

 

11. อเล็กซองเดร ลากาเซตต์ กองหน้า (ฝรั่งเศส)

27 ปี / อาร์เซนอล / ติดทีมชาติ 16 / ประตู 3

 

กลายเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่โดนรายชื่อที่เปี่ยมด้วยศักยภาพของฝรั่งเศสเบียดตกเครื่องไปอย่างน่าเสียดาย แม้ว่าเจ้าตัวจะระเบิดฟอร์มเก่งกับสโมสรอาร์เซนอลในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ต้องหลีกทางให้กับนักเตะอย่าง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ศูนย์หน้าเชลซีที่โชว์ฟอร์มได้อย่างดีเยี่ยมกับทีมชาติ รวมถึงนักเตะอย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป้ และอองตวน กรีซมันน์ ที่โชว์ฟอร์มกันอย่างดุดันในฤดูกาลที่ผ่านมา

 

ขณะที่รายชื่อนักเตะที่พลาดศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ ทีมชาติฝรั่งเศสยังมี อ็องโตนี มาร์กซิยาล จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, นิคลาส เบนท์เนอร์ ที่เรียกความฟิตไม่ทันมาช่วยทีมชาติเดนมาร์กลงทำศึกฟุตบอลโลก รวมถึงอีกหนึ่งกองหน้าชั้นนำของพรีเมียร์ลีกอย่าง อัลบาโร โมราตา จากเชลซี ก็โดน ดิเอโก คอสตา ศูนย์หน้าวัย 29 ปี ที่ช่วยแอตเลติโก มาดริด คว้าแชมป์ยูโรปาลีก คว้าสิทธิ์ไปฟุตบอลโลกแทนที่เขากับทีมชาติสเปนอีกด้วย

 

https://www.instagram.com/p/Bjld3EiHnaj/?utm_source=ig_embed

 

สุดท้ายเป็นเรื่องราวของ เปาโล เกอร์เรโร ดาวยิงความหวังและกัปตันทีมของทีมชาติเปรู ซึ่งพลาดโอกาสไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่โดนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า สั่งแบนเป็นเวลา 1 ปี เมื่อต้นเดือนธันวาคม ปี 2017 ข้อหาใช้สารกระตุ้น แต่ในเดือนเดียวกันเขาก็ถูกลดโทษให้เหลือเพียง 6 เดือนหลังผ่านการอุทธรณ์

 

จนล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา เขาก็ได้ลงสนามให้กับทีมชาติเปรู และยิงไป 2 ประตู พาทีมอุ่นเครื่องชนะซาอุดีอาระเบียไป 3-0 และตอนนี้มีชื่อติด 23 คนแรกของทีมชาติเปรูไปลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแน่นอน การเข้ามาของเขาต้องเบียดนักเตะตกไป

 

ซึ่งกลายเป็น เซร์คิโอ เปนญ่า กลางรุกจากกรานาดา ต้องหลุดทีมไปอย่างน่าเศร้า แม้ว่าทางสหพันธ์ฟุตบอลเปรูจะออกมากล่าวแสดงความขอบคุณต่อความทุ่มเทของเปนญ่าและยืนยันว่าจะเรียกใช้งานเขาในอนาคต แต่แน่นอนว่าการพลาดโอกาสรับใช้ชาติในศึกฟุตบอลสำหรับนักเตะแล้วเป็นสิ่งที่ทำใจได้ยากลำบากนัก

 

“วันนี้ผมต้องพบเจอกับความยากลำบากที่สุดในอาชีพของผม และรู้สึกว่าผมทำได้ไม่ดีพอที่จะเป็นตัวแทนทีมชาติไปแข่งขันในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” เปนญ่าได้โพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมส่วนตัวของเขา หลังจากทราบข่าวว่าเขาหลุดจากรายชื่อ 23 คนสุดท้ายของเปรู

 

จากเหตุการณ์ของแต่ละคน แม้ว่าจะมีสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ดีไม่พอ ดีเกินไป และไม่พอดี แต่สุดท้ายสิ่งหนึ่งที่แสดงออกมาเหมือนกันหมดคือความเสียดายที่จะได้สัมผัสความรู้สึกของการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งการรอคอยอีก 4 ปี ไม่ว่าคุณจะอายุ 19 หรือ 32 แต่อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ในโลกของฟุตบอลที่มหาอำนาจลูกหนังล่มสลายและเกิดใหม่ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนผ่าน

 

ทำให้อดสงสารคนที่มีรายชื่ออยู่ในบทความนี้ไม่ได้ แต่ก็เชื่อว่าอนาคตยังคงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดเดาได้ และการไม่ได้ไปร่วมในครั้งนี้ก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะไม่ได้พบกับสิ่งที่ดีกว่าในอนาคต เพราะในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก เหตุการณ์มหัศจรรย์มักเกิดขึ้นในเวลาที่คาดไม่ถึงตลอดมา จริงไหมล่ะ

 

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai

Photo: AFP

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X