‘Microsoft-Apple-NVIDIA’ ชิงเบอร์ 1 หุ้นใหญ่สุดของโลก ใครจะก้าวไปสู่บริษัท 4 ล้านล้านดอลลาร์ได้ก่อน

Microsoft (MSFT) ชิงตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกมาจาก Apple (AAPL) ได้ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก่อนที่จะเสียตำแหน่งนี้ให้กับ NVIDIA (NVDA) ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (19 มิถุนายน) อันดับของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้ง 3 มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง แต่สิ่งสำคัญคือ บริษัทใดที่มีแนวโน้มจะครองตำแหน่งนี้มากที่สุดในปีต่อไป?

NVIDIA แซงหน้า Microsoft กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

NVIDIA แซงหน้า Microsoft ขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกเมื่อวันพุธที่แล้ว ก่อนที่จะคืนตำแหน่งให้กับ Microsoft ไป หลังจากที่ราคาหุ้นร่วงลงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา

บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ครองอันดับสูงสุดได้ในช่วงสั้นๆ โดยมีมูลค่าตลาดหุ้นอยู่ที่ 3.34 ล้านล้านดอลลาร์ การเพิ่มขึ้นของหุ้น NVIDIA ได้รับแรงหนุนจากชิปที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่นักวิเคราะห์ขนานนามว่าเป็น “ทองคำในภาคเทคโนโลยี”

ก่อนที่ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงล่าสุดจะทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ลดลงมาที่ประมาณ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ โดย 3 วันที่ผ่านมามูลค่าหุ้นของ NVIDIA ลดลงไปมากถึง 4.3 แสนล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ดี NVIDIA ยังเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนมากสุดในบรรดาหุ้นกลุ่ม ‘Magnificent 7’ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ NVIDIA เพิ่มขึ้นประมาณ 174%

สถิติที่น่าสนใจของ NVIDIA คือ บริษัทใช้เวลา 30 ปี กว่าจะมีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ จากนั้นใช้เวลา 10 เดือน เพิ่มมูลค่า 2 เท่า เป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์ และใช้เวลาเพียง 23 วัน ในการก้าวจากบริษัทที่มีมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ เป็น 3 ล้านล้านดอลลาร์

ขณะที่หุ้น Berkshire Hathaway ของมหาเศรษฐี Warren Buffet ใช้เวลาเกือบ 60 ปี ในการปั้นบริษัทจาก 0 มาสู่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ การก้าวขึ้นสู่อันดับสูงสุดของ NVIDIA เป็นเรื่องราวที่น่าทึ่ง ทั้งในเรื่องนวัตกรรมที่โดดเด่นและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เนื่องจาก AI ยังคงเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วและกำหนดอนาคตของเราได้

การเติบโตของ NVIDIA นั้นมาจากผลประกอบการที่เหนือความคาดหมาย เนื่องจากธุรกิจ Data Center และกระแส Generative AI กำลังได้รับความนิยม ทำให้ความต้องการชิป NVIDIA สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด โดย NVIDIA มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 95% ของหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) สำหรับ Data Center และส่วนแบ่งตลาดประมาณ 80% หากพูดถึงแค่ AI Accelerators

บริษัทผลิตชิปยักษ์ใหญ่ประกาศผลประกอบการรายไตรมาสล่าสุด โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 262% และกำไรเพิ่มขึ้น 462% เมื่อเทียบเป็นรายปี

คาดบิ๊กเทคอย่าง NVIDIA, Apple และ Microsoft ยังแข่งรุนแรง

บริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก 3 อันดับแรก ได้แก่ NVIDIA, Microsoft และ Apple ต่างมีมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่า NVIDIA จะได้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในช่วงเวลาสั้นๆ แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการแข่งขันระหว่างบริษัทเทคโนโลยีทั้ง 3 จะยังคงรุนแรง

นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า ในปีหน้าการแข่งขันเพื่อแย่งชิงผู้นำด้านเทคโนโลยีที่มีมูลค่าตลาด 4 ล้านล้านดอลลาร์ จะคงสลับกันไปมาระหว่าง NVIDIA, Apple และ Microsoft

ส่วนแนวโน้มในระยะสั้น Neville Javeri ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอ และหัวหน้าทีม Empiric LT Equity ที่ Allspring Global Investments ชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะรู้สึกเหนื่อยล้ากับ AI หรือกังวลมากขึ้น จากการที่ดัชนีหุ้นในวงกว้างปรับเพิ่มขึ้น เป็นเพราะการกระจุกตัวขึ้นอยู่ในหุ้นเพียงไม่กี่ราย

บริษัทใดจะเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกในปีต่อจากนี้?

เริ่มจาก Microsoft บริษัทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากการมีส่วนร่วมกับ Generative AI Microsoft มีการพัฒนาร่วมกับ ChatGPT ของบริษัท OpenAI สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Microsoft Office ซึ่งหากผู้ใช้งานต้องการเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้ ธุรกิจหรือผู้ใช้งานจำเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

กลยุทธ์นี้จะช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัท Microsoft อีกทางหนึ่ง ความต้องการสำหรับ Microsoft มีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นปรากฏชัดเจนต่อนักลงทุนแล้ว และไม่น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญไปกว่านี้มากนัก

NVIDIA เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างแท้จริงตั้งแต่ต้นปี 2023 ความต้องการ AI มหาศาลได้ผลักดันความต้องการ GPU ที่ทรงพลังให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ทำให้เกิดรายได้และผลกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากสำหรับ NVIDIA ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปชั้นนำ

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลบางประการเกี่ยวกับความสามารถของ NVIDIA ในการรักษามูลค่าไว้ เนื่องจากการผลิตชิปเป็นธุรกิจที่เป็นวัฏจักร และนักลงทุนบางรายกังวลว่าความต้องการ GPU เหล่านั้นจะลดลงในอนาคต

Apple ตามหลัง Microsoft และ NVIDIA ในหลายเดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งงาน Worldwide Developers Conference เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน บริษัทประกาศเปิดตัว Apple Intelligence ซึ่งถือเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากปัจจุบัน iPhone ที่ใช้งานอยู่มากกว่า 90% เป็นรุ่นเก่า ดังนั้นหาก Apple Intelligence กลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมของวงการ นี่จะทำให้การอัปเกรดของ Apple แข็งแกร่งกว่าที่เคยมีมานับตั้งแต่ช่วงแรกที่โรคโควิดระบาด

บริษัทใดจะเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกในปีต่อจากนี้ อาจขึ้นอยู่กับว่า Apple Intelligence จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้มากน้อยแค่ไหน หากประสบความสำเร็จตามคาด นี่อาจช่วยกระตุ้นยอดขายของ Apple ได้อย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม Microsoft เป็นตัวเลือกการลงทุนที่อนุรักษนิยมที่สุด แต่ก็ยังเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ดีหากกระแส AI หมดลง ในขณะที่ NVIDIA เป็นหุ้นที่สร้างความประหลาดใจได้เสมอ เราอาจเห็นความต้องการ GPU ที่เพิ่มขึ้นอย่างเหลือเชื่ออยู่แล้วเพิ่มขึ้นสูงต่อไป ซึ่งอาจกระตุ้นให้หุ้นพุ่งขึ้นอีกครั้ง

อ้างอิง: