วันนี้ (22 มิถุนายน) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ย้ำถึงจุดยืนที่ไม่รับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายปี 2568 เพราะเป็นการจัดงบที่ไม่ได้แตกต่างไปจากการทำงบในยุครัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร จัดงบแบบเก่าเหมือนในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม จัดงบกว่าแสนล้านเพื่อเอื้อ สส. พื้นที่ มากกว่าการพัฒนาโครงสร้างด้านเทคโนโลยีที่จัดงบไว้เพียงหลักพันล้าน
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เมื่อมาดูรายละเอียดในการจัดงบเชิงยุทธศาสตร์พบว่า รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงเช่นเดียวกับรัฐบาลยุค คสช. โดยจัดงบไว้สูงถึง 4 แสนกว่าล้านบาท สูงกว่ายุทธศาสตร์ด้านการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การพัฒนาทักษะที่รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ รวมถึงการพัฒนาทักษะและสามารถในการผลิตสินค้าที่โลกต้องการ รวมทั้งงบยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโต บนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกันยังพบอีกว่า การจัดงบครั้งนี้ไม่ให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การปฏิรูปการศึกษา การแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ ละเลยการดูแล SMEs และสนับสนุนคนตัวเล็กให้ยืนอยู่บนขาของตัวเองได้อย่างยั่งยืน
“การจัดงบเช่นนี้ไม่ได้สร้างบริบทที่เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ทันโลกยุคใหม่ที่เป็นโลกแห่งเทคโนโลยี เป็นการจัดงบที่ไม่ดูทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลก แต่ผู้มีอำนาจก็ยังจัดงบแบบโบราณ มุ่งเอาใจ สส. พื้นที่ เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนพรรคพวก” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ระบุด้วยว่า เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่พรรคไทยสร้างไทยไม่รับหลักการคือ เป็นการจัดงบที่ผิดฝาผิดตัว ไม่ตอบโจทย์ และเปิดช่องให้เกิดการทุจริตมากมาย เช่น กองทัพอากาศตั้งงบจัดซื้อวิทยุสื่อสารแพงเกินจริง ขณะที่กองทัพเรือประเคนการปรับปรุงเรือรบให้ต่างชาติทั้งที่ไทยทำเองได้ พรรคจึงเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสนับสนุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยเพื่อพึ่งพาตนเอง ซึ่งจะทำให้การตรวจสอบการใช้งบมีประสิทธิภาพโปร่งใสมากขึ้น