×

สัมภาษณ์ Jonathan Brinbaum ในตำแหน่ง Global General Manager Bulgari Parfums กับแง่มุมธุรกิจน้ำหอม

03.06.2024
  • LOADING...

หลังจากที่ Bulgari เปิดตัวน้ำหอมรุ่น Allegra ไปในปี 2021 ล่าสุดทางแบรนด์ก็ได้ตอกย้ำความสำเร็จด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดอย่าง Allegra Chill & Sole น้ำหอมไลน์ใหม่ที่ส่งกลิ่นหอมในสไตล์อิตาเลียน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พร้อมกับลูกเล่นในการเพิ่มความหอมอย่าง Magnifying Neroli ผ่านการคิดค้นโดย Master Perfumer ระดับขึ้นหิ้งอย่าง Jacques Cavallier ที่มีส่วนร่วมด้วย

 

ซึ่ง THE STANDARD POP ก็ได้บินลัดฟ้าไปในงานเปิดตัวครั้งนี้ถึงที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมกับสัมภาษณ์ Jonathan Brinbaum ในตำแหน่ง Global General Manager Bulgari Parfums มาร่วมพูดคุยถึงแง่มุมธุรกิจ กลยุทธ์การผลักดันของน้ำหอม Bulgari รวมถึงสิ่งที่แบรนด์ต้องการขับเคลื่อน

 

 

ธุรกิจ Bulgari Parfums ทั่วโลกในปี 2024 เป็นอย่างไรบ้าง?

 

Jonathan: ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณมากๆ และเป็นเรื่องน่ายินดีเสมอที่จะพูดคุยเกี่ยวกับน้ำหอม เพราะตอนนี้ Bulgari Parfums กำลังดำเนินไปได้ดี เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเราได้เข้าสู่กระบวนการสร้างนวัตกรรม ผมอยากจะบอกว่าราวๆ 5-6 ปีมานี้เราตั้งเป้าหมายไว้หลายอย่างมาก โดยเฉพาะการปูทางของ Bulgari ให้สำเร็จ ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเลยสำหรับการดำเนินการ เพราะจุดตั้งต้นของพวกเราคือ Roman Jeweler

 

และแบรนด์ใหญ่เองก็ขึ้นชื่อในด้านความหรูหราจากเครื่องประดับ ผลก็คือเมื่อเรายกระดับธุรกิจจิวเวลรีแล้ว แน่นอนว่าเราก็ยกระดับน้ำหอมตามมา ในการค้าปลีกของเรา เรามีตัวเลือกจุดขาย และนวัตกรรมก็ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Allegra และ Le Gemme จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์

 

สิ่งสำคัญคือเราต้องพูดภาษาเดียวกัน ทั้งเครื่องประดับ นาฬิกา และน้ำหอม ควรเป็นปึกเดียวกัน ผมคิดว่าวิสัยทัศน์นี้ได้ผลดีมาก เพราะวันนี้เรากำลังเติบโตขึ้น และลูกค้าก็ยังหลงใหลในด้านน้ำหอมชั้นสูงอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ได้เห็นมันแบบนี้ เพราะเราเปลี่ยนแบรนด์ของเราไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ก็สามารถพิชิตใจลูกค้าได้ เนื่องจากมีผู้สนใจน้ำหอมระดับไฮเอนด์อยู่เสมอ ผู้คนต้องการน้ำหอมที่กลิ่นหอมหวาน

 

มันเปรียบเสมือนกับโปสต์การ์ดแหละ และแน่นอนว่าคุณต้องการให้คนอื่นได้กลิ่นจนต้องทักว่า ‘โอ้ คุณมีกลิ่นหอม!’ ซึ่งเหตุผลส่วนใหญ่ว่าทำไมคุณถึงซื้อน้ำหอมกลิ่นนั้นๆ นั่นเป็นเพราะคุณอยากทำเพื่อตัวคุณเอง แนวคิดทั้งหมดนี้ทำให้แบรนด์ของเราประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน ทุกอย่างจึงเป็นการเดินทางที่ยอดเยี่ยม เพราะผมก็เห็นมาตลอดว่าการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์เกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง

 

 

ธุรกิจน้ำหอม Bulgari ในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งในแง่ของจำนวนน้ำหอม จุดขาย และจำนวนร้านค้าปลีก?

 

Jonathan: ณ จุดขายตอนนี้ เรากำลังจะแตะยอดโดยประมาณ 6,000 แห่งทั่วโลก จากการอ้างอิงเมื่อหลายปีก่อนคือราวๆ 25,000 แห่ง ดังนั้นเราจึงเก็บส่วนแบ่งไว้ 75% เพื่อกลับไปยังจุดที่ผมอยากยกระดับและมุ่งเน้นไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องจริงๆ ในแง่ของความรู้สึก ผมก็คิดว่านั่นเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่มาก

 

แต่สิ่งที่เรามุ่งเน้นจริงๆ ในตอนนี้คือคอลเล็กชันระดับไฮเอนด์ อย่าง Allegra และ Le Gemme ซึ่งก็มีประมาณ 20 รูปแบบกลิ่นที่แตกต่างกันไป แถมยังมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์อีกชุดที่มีแกนหลัก 3-5 กลิ่น ล่าสุดเรามีแคตตาล็อกมากกว่านั้น เรากำลังมุ่งเน้นไปที่น้ำหอมระดับไฮเอนด์และแพลนถึงสัญลักษณ์ที่เตรียมไว้

 

 

คุณคิดว่า Allegra Chill & Sole และ Magnifying Neroli ล่าสุด จะเพิ่มมูลค่าให้กับตระกูล Bulgari Parfums ได้อย่างไร?

 

Jonathan: ก่อนที่จะเข้าใจในคอนเซปต์ของ Chill & Sole คุณต้องเข้าใจความเป็น Allegra ก่อน ตอนที่พวกเราออกแบบสิ่งนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ไอเดียนั้นง่ายมาก มันเป็นการสรุปช่วงเวลาต่างๆ ของอิตาลี เพราะเป็นน้ำหอมที่ขับเคลื่อนอารมณ์ และพูดถึงช่วงเวลาของวิถีชีวิตชาวอิตาลี

 

อย่างกลิ่น Riva Solare คือสายลมสดชื่นแห่งท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ส่วน Fiori D’Amore คืออารมณ์ความรู้สึกของคุณเมื่อได้รับช่อดอกไม้อันงดงาม นั่นคือไอเดียของ Chill & Sole มันคือช่วงเวลาที่ผมคิดว่าเราทุกคนล้วนหลงรัก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คุณผ่อนคลายและจะเพลิดเพลินไปกับโมเมนต์เหล่านั้น ซึ่ง Chill & Sole ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นอยู่เสมอ

 

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมน้ำหอมถึงมีความเป็น Fruity หรือ Floral นั่นก็เพราะมันมาจากส่วนผสมของทำนอง ความรู้สึก ความสดชื่น และความนุ่มนวล ที่เราอยากจะห่อหุ้มเอาไว้ สอดคล้องกับตัว Magnifying Neroli ที่เป็นตัวขยายกลิ่นให้สดใหม่ขึ้น และนั่นก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของ Allegra

 

ตอนที่เราออกแบบสิ่งนี้ ความตั้งใจก็คือให้มีอารมณ์ความรู้สึกแบบอิตาลี แต่มันก็เกินกว่านั้น ไอเท็มนี้จะพยายามปรับแต่งน้ำหอมของคุณ นี่เป็นเพียงวิธีสำหรับลูกค้าที่ไม่เพียงแต่จะได้น้ำหอมแบบเดียวกับคนอื่นๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นความแรร์ในการมิกซ์แอนด์แมตช์อีกด้วย คุณสามารถฉีด Riva Solare และเพิ่มมาสก์เล็กน้อยได้หากต้องการสร้างสัมผัสที่นุ่มนวล นั่นคือแนวคิดในการสร้างน้ำหอมของเรา เป็นเหตุผลว่าทำไม Magnifying Neroli จึงเข้ากันได้ดีกับ Chill & Sole อย่างเห็นได้ชัด เพราะมีส่วนผสมหลักของซิตรัส

 

ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ลูกค้าชื่นชอบเกี่ยวกับ Allegra และมันทั้งสนุกสนานและน่าเล่นมากๆ ตอบโจทย์สาย Personalization ทั้งหมดนี้คือวิธีที่เราสร้างมันขึ้นมา รวมถึง Jacques Cavallier ที่ผมเองก็ไม่จำเป็นต้องแนะนำอะไรเกี่ยวกับเขาอีกต่อไป เขาคือ Master Perfumer ที่เหมือนนักมายากล ผมคิดว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดที่พิเศษมาก และการสร้างสรรค์นี้ผมหวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับมัน นั่นคือสิ่งที่เราหวัง

 

 

ปัจจุบันประเทศไทยมีอิทธิพลในวงการลักชัวรีระดับโลกมากขึ้น โดยในส่วนของน้ำหอม คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้ตลาดของเราพิเศษกว่าที่อื่นๆ?

 

Jonathan: ผมคิดว่าคนไทยมีความหลงใหลในน้ำหอมมาโดยตลอด เราจะเห็นถึงการเพิ่มขึ้นมาจากตลาดเก่าๆ ได้ และไทยก็อาจจะนำหน้าไปสักหน่อย แนวโน้มในการทำความเข้าใจยังรวมถึงงานฝีมือที่อยู่เบื้องหลังน้ำหอม ส่วนผสม วิธีที่เราจัดเก็บ ผมมีวิสัยทัศน์นี้มาโดยตลอดว่าไทยอาจจะนำหน้าเทรนด์นี้เล็กน้อย

 

และผมคิดว่านั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมลูกค้าส่วนใหญ่ในไทยในปัจจุบันจึงคาดหวังมากขึ้นจากแบรนด์ต่างๆ ที่จะมาพร้อมกับเรื่องราวหรือเรื่องจริงเกี่ยวกับวิธีการที่เราสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของเรา มันไม่ใช่วงการน้ำหอมหรือเครื่องประดับอีกต่อไป แต่มันเกี่ยวกับบางสิ่งที่จริงจังจริงๆ และผมคิดว่าในไทยเป็นผู้บุกเบิกมาบ้างแล้ว มุมมองที่หลายคนมองเห็นน้ำหอมคือการชมเชยและดื่มด่ำที่แท้จริง

 

ซึ่งสำหรับเราแล้วการทำให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าสนุกอยู่ในตัวนั้นเป็นอะไรที่วิเศษมาก เพราะเมื่อคุณมีลูกค้าที่เกือบจะเป็นมืออาชีพ หรืออย่างน้อยก็สนใจมากๆ คุณจะสามารถนำเสนอบางสิ่งบางอย่างออกมาได้จริง แถมยังจะโดนใจลูกค้าด้วย ซึ่งเรามองเห็นสิ่งนี้ในธุรกิจ ผมคิดว่าวงการน้ำหอมกำลังไปได้ดีมากในไทย หลายแบรนด์เลย ไม่ใช่เพียงแค่เรา มันเป็นไดนามิกที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นเราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Bulgari จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ส่วนจุดแข็งคงเป็น DNA ของโรมันที่เรามี จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ของพวกเรามีความพิเศษขึ้นมา

 

จนถึงขณะนี้ธุรกิจของ Bulgari ในไทยมียอดขายเป็นอย่างไร และอะไรคือสิ่งที่ขายดีที่สุด?

 

Jonathan: ในด้านการขาย อย่างที่ผมกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เราได้เข้าสู่กระบวนการยกระดับทั่วโลก การยกระดับต้องผ่านการตัดจุดขายด้วย ดังนั้นเราจึงยังคงจัดจำหน่ายในไทย เช่นเดียวกับที่เราทำในภูมิภาคและทั่วโลก ในขณะเดียวกันก็มุ่งเน้นไปที่ประตูที่ดีที่สุดพร้อมข้อเสนอที่เหมาะสม ซึ่งตอนนี้เรากลับมาแล้ว และพร้อมยกย่องจักรวาลของ Bulgari

 

ประเด็นของผมคือไม่ได้ขายน้ำหอมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ผมมองว่ามันเป็นการเปิดประตูสู่ประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก ดังนั้นผมจึงต้องการจุดขายที่ดีที่สุด และขอเลือก Last point of sales มากกว่า

 

ดังนั้นในแง่นี้ธุรกิจในไทยตอนนี้กำลังฟื้นตัว แต่เรากลับตั้งใจจริงๆ ถึงจุดหนึ่งเพื่อกลับไปสู่ฐานที่สะอาดด้วยสินค้าที่ถูกต้อง พร้อมกับจุดขายที่ถูกต้อง และนั่นคือสิ่งที่เราเห็นตรงกันในวันนี้ พูดตามตรง ผมคิดว่ามันยังคงเป็นจุดเริ่มต้น แต่ก็คิดว่าศักยภาพในการทำก็ยังคงมีอยู่มาก

 

และเมื่อวานเรายังได้พูดคุยกับพันธมิตรทางการค้าของเราอีกด้วย ผมคิดว่าไทยเป็นหนึ่งในตลาดในภูมิภาคที่มีศักยภาพมากที่สุดสำหรับเราในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยแบรนด์ที่ผมคิดว่าจะได้รับการพิจารณาอย่างดี เรามีเรื่องที่จะนำเสนอและลูกค้าอาจจะสนใจ ผมคิดว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นสำหรับผมในไทยนะ

 

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อพูดถึงน้ำหอมเฉพาะกลุ่มระดับพรีเมียมของแบรนด์ต่างๆ เช่น Le Labo, Maison Francis Kurkdjian หรือ Frederic Malle น้ำหอมเหล่านี้ครองพื้นที่และได้รับความสนใจจากทั่วโลกเสมอเมื่อมีการเปิดตัวกลิ่นใหม่ คุณคิดว่ามันท้าทายสำหรับ Bulgari ที่จะทำการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ Parfum เนื่องจากช่วงราคาและฐานลูกค้าใกล้เคียงกันหรือไม่?

 

Jonathan: ผมจะบอกคุณถึงบางอย่างที่ตรงไปตรงมานะ ‘Niche’ สำหรับผมคือเป็นอะไรที่ดีมาก สำหรับผมทุกแบรนด์นั้นยอดเยี่ยมมาก ทั้งหมดเป็นคนที่สร้างความสนใจให้กับวงการน้ำหอม ผมมีความเคารพต่อแบรนด์เหล่านั้นมาก

 

ผมยอมรับนะว่าความเคลื่อนไหวที่เราได้รับการยอมรับในโลกน้ำหอมในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมานั้น สาเหตุหลักมาจาก Perfumer เฉพาะกลุ่มที่สร้างความสนใจให้กับลูกค้าในเรื่องส่วนผสม รวมถึงประสบการณ์น้ำหอมส่วนตัวของคุณ มันไม่ใช่การแข่งขัน ถือเป็นข้อดีในการดึงดูดลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ต้องการผลิตน้ำหอมระดับไฮเอนด์มากขึ้น แล้วเราจะพูดอะไรในฐานะ Bulgari ล่ะ?

 

แน่นอนว่าถ้าคุณสนใจในตลาดเฉพาะกลุ่ม หากคุณสนใจในส่วนผสม แน่นอนว่าเราคือแบรนด์หรู เป็นไปได้มากว่าแบรนด์ใหม่ๆ จะเข้าใจได้ แต่ส่วนผสมที่เราทำงาน ตัวศิลปิน และนักปรุงน้ำหอมระดับปรมาจารย์ที่เราร่วมงานด้วย กำลังนำสิ่งที่มากกว่าที่เป็นอยู่มาด้วย นั่นคือสาเหตุว่าทำไมจึงกลับไปสู่ประเด็นเรื่องราคา

 

ใช่ เรามีฐานราคาที่แพงกว่า เนื่องจากเราประดิษฐ์และคิดค้นต่างกัน แหล่งที่มาจึงต่างกัน เราได้จัดหาทั้งหมดมาอย่างมีความรับผิดชอบ เรามีศิลปินที่สร้างมาเพื่อแบรนด์ ในการนำเสนอบางอย่างของกลุ่มสินค้าหรูหราให้กับลูกค้าที่เข้ามา ส่วนใหญ่จึงย้อนกลับไปสู่การผลิตน้ำหอมระดับไฮเอนด์ผ่านกลุ่มเฉพาะ

 

ผมเลยมีทัศนคติเชิงบวกอย่างมากเกี่ยวกับน้ำหอมเหล่านี้ เพราะสำหรับผม การแข่งขันบางครั้งทำให้เกิดหมวดหมู่ที่มีพลังมากขึ้น และผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่แบรนด์เหล่านี้ทำได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึง Bulgari ด้วย เราแค่กำลังเสนอบางสิ่งบางอย่างของกลุ่มเฉพาะ และผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ลูกค้าต่างก็คาดหวัง

 

Jacques Cavallier ตำนาน Master Perfumer ที่อยู่เบื้องหลังน้ำหอม Bulgari Allegra Chill & Sole

 

Bulgari ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอมเชิงพาณิชย์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจาก Omnia และ Aqva & Man คุณคิดว่าสิ่งนี้ช่วยหรือสร้างอุปสรรคในการพยายามทำการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอมที่มีราคาแพงกว่าหรือไม่?

 

Jonathan: เป็นคำถามที่ดีมาก คุณรู้ไหมว่าในช่วงที่ผมดำรงตำแหน่ง ผมพยายามมุ่งเน้นไปที่ไอคอนของแบรนด์จริงๆ เพราะเรารู้ว่าน้ำหอมประเภทนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเปิดตัว มีสินค้าแปลกใหม่ทุกเดือน และแน่นอนว่าเราสร้างสรรค์ Chill & Sole เป็นตัวอย่าง

 

แต่ความตั้งใจของผมคือการมุ่งเน้นไปที่ความรู้สึกที่เป็นสัญลักษณ์ที่เรามีจริงๆ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไม Omnia และ Aqva & Man ไลน์เหล่านั้นถึงสำคัญ ก็เพราะว่าเรามีไอคอนอยู่ที่นั่น มีทั้งประวัติศาสตร์อายุ 20 ปี และเป็นกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Men in Black และอื่นๆ อีกมากมาย แถมยังเป็นสิ่งที่ Jacques Cavallier ได้ออกแบบไว้อีก โดยที่ผมหลงใหลมันเป็นอย่างมาก เพราะมันคือน้ำหอมกลิ่น Fruity อันเป็นเอกลักษณ์

 

ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่บรรทัดฐานเหล่านั้นมากๆ เพื่อเป็นหนทางของเราในการเข้าสู่อาณาจักร Bulgari Parfums เมื่อคุณได้เริ่มต้นจากน้ำหอมเหล่านั้น จากนั้นคุณก็จะเข้าถึงน้ำหอมที่หลากหลายยิ่งขึ้น นั่นเป็นสาเหตุที่นวัตกรรมในปัจจุบันมีเฉพาะสำหรับรุ่น Allegra และ Le Gemme เท่านั้น

 

นั่นเป็นเหตุผลที่เรานำลูกค้ารายแรกมายังแบรนด์ จากนั้นเราก็ทำให้พวกเขาพัฒนาไปข้างหน้า ไม่ว่าจะ Allegra หรือ Le Gemme ซึ่งเราต้องเผชิญกับการเข้าถึงที่ซับซ้อน คุณต้องมีความรู้ขึ้นอีกหน่อยจึงจะสนุกไปกับมันได้

 

 

จากมุมมองทางธุรกิจและการตลาดของ Bulgari ที่มีบัญชีอย่างเป็นทางการเพียงแอ็กเคานต์เดียวบนแพลตฟอร์ม เช่น Instagram สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากเครื่องประดับและน้ำหอม คุณเคยคิดที่จะเปิดเพจแยกต่างหากเช่น Bulgari Beauty หรือ Bulgari Parfums เพื่อให้ผู้ชมรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์ของคุณอยู่เสมอหรือไม่?

 

Jonathan: พวกเราเคยเปิดอันหนึ่งเมื่อตอนที่ผมเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ผมเปิดบัญชีและมีมันมาประมาณ 3-4 ปี มันวิเศษมากเพราะเป็นการแสดงออกถึงโลกแห่งน้ำหอมอย่างแท้จริง ผมก็เลยเปิดมันขึ้นมา แต่ตอนนี้ผมจงใจปิดมันไปแล้ว เพราะผมคือผู้ศรัทธาในแบรนด์เดียวอย่างแท้จริง

 

ลูกค้าไม่เห็น Bulgari Parfums เป็น Bulgari Parfums พวกเขามองว่ามันเป็นความงดงามของ Bulgari แทนที่ ดังนั้นวันนี้พวกเรามีบัญชี Bulgari เรามีส่วนแบ่งของความคิดเห็นเกี่ยวกับน้ำหอมในบัญชีนี้ และไม่ใช่แค่ Instagram เท่านั้น มันบ่งบอกว่าสังคมเป็นทรงกลม โดยทั่วไปแล้วเราเคยแสดงสิ่งเหล่านั้นออกมาแล้ว แต่ความสำคัญคือลูกค้าต้องเข้าใจว่าเป็นแบรนด์เดียวกัน

 

กลับมาที่ 3 ใจความหลักที่ผมพูดไปในตอนต้น ทั้งนวัตกรรม การยกระดับ และความเป็นหนึ่งเดียวของแบรนด์ การจะเป็นแบรนด์เดียว คุณต้องมีความสม่ำเสมอ ผมเป็นคนเปิดมันและผมก็เป็นคนปิดมันด้วย และผมคิดว่าเราไม่เคยประสบความสำเร็จเท่านี้มาก่อน ตอนนี้พวกเราได้รวมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว น้ำหอมนั้นจำเป็นต้องเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมและส่วนทั้งหมด นั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงปิดวงจรนี้ เพราะมันคงจะเบี่ยงเบนออกไปหน่อย

 

 

Bulgari มีแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกในด้านเครื่องประดับ ในอนาคตอันใกล้นี้มีโอกาสจะข้ามเข้าสู่แผนกน้ำหอมด้วยหรือไม่?

 

Jonathan: เรามีมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพูดถึงอินฟลูเอ็นเซอร์ ส่วนตัวผมไม่ชอบคำว่าอินฟลูด้วยซ้ำถ้าให้พูดตามตรง เรากำลังพูดถึง Friend of Brand หรือแอมบาสเดอร์มากกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนดังที่จะพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์เราคือควรจะเป็นของแท้ ต้องมาจากแพสชัน และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังพยายามทำร่วมกับแอมบาสเดอร์ของเรา นั่นคือการที่มีคนที่สนใจจริงๆ ควบคู่ไปกับแบรนด์

 

การเลือกซื้อเครื่องประดับ นาฬิกา และน้ำหอม มันแน่นอนแหละว่าต้องคำนึงถึงจุดแข็งของคนดัง แต่ที่มากกว่านั้นคือวิธีที่บุคคลเหล่านี้จะพูดถึงเราอย่างจริงใจ ซึ่งเราก็เคยมีโอกาสครั้งใหญ่มาแล้ว ตัวอย่างเช่น “ฉันหลงใหลในแบรนด์เครื่องประดับนี้มาก ฉันรักมัน” จาก Priyanka Chopra ผู้โด่งดังทั้งในสหรัฐอเมริกาและอินเดีย เธอมีบางอย่างที่จะพูดเกี่ยวกับ Bulgari จริงๆ

 

จากคำถามของ THE STANDARD POP ในข้อนี้ ผมคิดว่าทุกวันนี้แบรนด์ต่างๆ จะต้องใส่ใจเรื่องนี้ให้เยอะขึ้นมาก พวกเขาต้องพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่เชิงพาณิชย์เกินไป บางทีอาจจะต้องผ่านการพบปะหรือพูดคุยกันโดยตรงกับนักปรุงน้ำหอม

 

และเหล่าคนดังที่มีอิทธิพล หากเราต้องการใช้คำนี้ถึงแม้จะไม่ชอบก็ตาม แต่เราก็ยังต้องมีความจริงใจด้วย โฆษณาเก่าๆ ดีๆ ในยุค 90 ที่คุณทาหน้า ฉีดน้ำหอม แล้วขายผลิตภัณฑ์ สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ความคาดหวังของผมแล้ว ตราบใดที่ยังมีความน่าเชื่อระหว่างแอมบาสเดอร์กับตัวน้ำหอม

 

ในด้านลักชัวรี เรามักจะต้องคิดถึงอนาคตและค้นหาวิธีที่จะดึงดูดลูกค้าในอนาคต ซึ่งกฎเกณฑ์จะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ คุณและทีมงานน้ำหอม Bulgari ทำงานอย่างไรเพื่อให้แบรนด์ยังคงเป็นอย่างนั้น และทำให้ผู้คนตื่นเต้นกับข้อเสนอของคุณ

 

Jonathan: ผมเป็นผู้ศรัทธาอย่างแท้จริงในเรื่องนวัตกรรม คุณต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ แม้ว่ามันคือน้ำหอม แต่ผมคิดว่ามันเป็นพื้นฐานสำหรับทุกอุตสาหกรรม คุณต้องมาพร้อมกับสิ่งที่ทำให้ลูกค้าประหลาดใจ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแนวคิดของ Allegra จึงเป็นเรื่องการขยายทางนวัตกรรม มันคือความก้าวหน้า

 

ตอนนี้เรานำนวัตกรรมของเรามาสู่การค้าปลีกได้อย่างไร? แนวคิดในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการค้าปลีก การผสมวัตถุดิบ เป็นประสบการณ์ในการค้าปลีกที่เราสามารถนำกลิ่นหอมมารวมกันและสร้างประสบการณ์กลิ่นหอมแบบ 3 มิติด้วย AI นั่นคือสิ่งที่เราทดสอบ

 

เพียงเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้ามองว่าเราเป็นแบรนด์ที่มีนวัตกรรม ตลอดจนวิธีที่เราจัดหาผลิตภัณฑ์ของเรา และคุณรู้ว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกัน คุณต้องมีนวัตกรรม นั่นคือสิ่งที่เราพยายามทำไม่ว่าจะสำหรับอุตสาหกรรมใดก็ตาม ผมคิดว่าสิ่งที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมายในโลกน้ำหอมเมื่อ 2-3 ปีก่อน ก็เป็นเพราะคนจำนวนมากหยุดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และตอนนี้สิ่งที่ผมชอบก็คือแบรนด์จำนวนมากกลับมาพร้อมกับสิ่งที่อยากจะสื่อสาร รวมถึงงัดนวัตกรรมในหมวดหมู่นี้มาแข่งกัน

 

ภาพ: Bulgari

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X