×

หุ้นกลุ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย – คาดแนวโน้มดีขึ้นใน 2Q67

31.05.2024
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

 

1Q67 บริษัทภายใต้การวิเคราะห์ของ InnovestX Research (AP, LH, LPN, PSH, QH, SIRI และ SPALI) รายงานยอด Presales ที่ 3.86 หมื่นล้านบาท (ลดลง 8%YoY และ 22%QoQ) ต่ำสุดในรอบ 9 ไตรมาส โดยยอด Presales จากโครงการแนวราบลดลง 7%YoY แต่เพิ่มขึ้น 6%QoQ ในขณะที่ยอด Presales จากคอนโดมิเนียมลดลง 12%YoY และ 52%QoQ ยอด Presales ใน 1Q67 คิดเป็น 18% ของเป้า Presales ปี 2567 ที่บริษัทในกลุ่มที่อยู่อาศัยภายใต้การวิเคราะห์วางไว้ที่ 2.14 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 21%)

 

ในขณะที่รายได้ที่ลดลงสู่ 3.6 หมื่นล้านบาทใน 1Q67 (ลดลง 9%YoY และ 23.1%QoQ) เพราะได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่ลดลง และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิ 1Q67 ลดลงแรงสู่ 4.8 พันล้านบาท (ลดลง 45.9%YoY และ 30.2%QoQ) ต่ำสุดในรอบ 15 ไตรมาส

 

ทั้งนี้คาด Presales 2Q67 ฟื้นตัว ด้วยอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการลดค่าธรรมเนียมการโอนที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน – 31 ธันวาคม 2567, การฟื้นตัวของอุปสงค์จากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ และการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น ทำให้คาดว่ายอด Presales จะฟื้นตัวสู่ราว 4.2 หมื่นล้านบาทใน 2Q67 ปรับตัวดีขึ้น QoQ แต่ยังคงปรับตัวลดลง YoY เพราะได้รับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยระดับสูง

 

InnovestX Research ประเมินกำไรสุทธิ 2Q67 ของบริษัทในกลุ่มที่อยู่อาศัย 7 บริษัทภายใต้การวิเคราะห์ได้ที่ราว 6.1 พันล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 25%QoQ (แต่ลดลง 25%YoY) โดยได้รับการสนับสนุนจากการโอน Backlog และการฟื้นตัวของยอดขาย อย่างไรก็ตาม หลังการประกาศผลประกอบการ 1Q67 ได้ปรับประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 2567 ของ LH, QH และ PSH ลดลง เพื่อสะท้อนตัวเลข 1Q67 ที่อ่อนแอกว่าคาด

 

แต่ยังคงประมาณการสำหรับ AP, SPALI, LPN และ SIRI ไว้เหมือนเดิม โดยประมาณการรายได้ปี 2567 ที่ปรับใหม่อยู่ที่ 1.84 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6.5%) ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ 1.98 แสนล้านบาท

 

และประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ปรับใหม่อยู่ที่ 2.88 หมื่นล้านบาท (ลดลง 5.9%) ต่ำกว่าประมาณการเดิมอยู่ 5.1% AP และ SPALI เป็นสองบริษัทที่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต ในขณะที่ LH (ไม่รวมกำไรพิเศษ) QH, PSH, LPN และ SIRI จะรายงานกำไรสุทธิลดลง ถ้าผลประกอบการ 1H67 ออกมาตามคาด กำไร 1H67 จะคิดเป็น 38% ของประมาณการกำไรเต็มปี

 

กระทบอย่างไร:

 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (SETPROP) ปรับลง 6.45%, AP ปรับลง 14.35% ขณะที่ SET Index ปรับลง 1.20%

 

กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:

 

InnovestX Research เลือกหุ้นเด่นเป็น AP (เรตติ้ง Outperform ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 15 บาทต่อหุ้น) แรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยระดับสูง อัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูง และอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ ทำให้ชอบหุ้นที่มี Backlog แข็งแกร่ง ปัจจุบันบริษัทในกลุ่มที่อยู่อาศัยภายใต้การวิเคราะห์มี Backlog รวม 8.8 หมื่นล้านบาท

 

โดย 65% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567 Backlog ของ AP คิดเป็น 39% ของ Backlog รวมทั้งหมด นอกจากนี้ AP ยังเป็นบริษัทที่มี Backlog มูลค่าสูงที่สุดในปี 2567-2569 ด้วย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้กำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย แม้ว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองจะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 รวมถึงการบริหารสินค้าคงคลัง อัตราการปฏิเสธสินเชื่อและการยกเลิก

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X