ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน ให้คำมั่นที่จะจัดลำดับความสำคัญในการจ้างงานเยาวชน และจัดสรรทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อสร้างงาน โดยเน้นย้ำว่าอัตราการจ้างงานแบบเต็มที่ โดยที่ไม่มีประชากรหนุ่มสาวหรือวัยแรงงานที่ตกงาน เป็น ‘เป้าหมายสำคัญ’ สำหรับการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงควรโฟกัสไปที่การจ้างงานสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
สำนักข่าวซินหัว สื่อท้องถิ่นของทางการจีนรายงานว่า ความเห็นของผู้นำจีนครั้งนี้มีขึ้นระหว่างที่เจ้าตัวพบปะพูดคุยกับบรรดา Politburo หรือคณะกรรมการบริหารพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ว่าด้วยเรื่องการศึกษาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 พฤษภาคม) โดย สีจิ้นผิง ย้ำว่า นอกจากจะต้องให้ความสำคัญกับการจ้างงานหนุ่มสาวไว้ลำดับแรกสุดของนโยบายพัฒนาประเทศแล้ว ทางการจีนควรสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมและวิสาหกิจที่มีขีดความสามารถในการจ้างงานที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ยังเสริมว่า หลักสูตรและวิชาศึกษาควรได้รับการปรับเปลี่ยนให้มีความเป็นไดนามิก เพื่อให้สอดคล้องและตอบสนองต่อความต้องการที่เกิดจากเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมใหม่ๆ ยิ่งไปกว่านั้น สียังชี้ว่า ‘ทัศนคติที่ถูกต้องสำหรับการจ้างงาน’ ควรได้รับการปลูกฝังในสังคม
ความเห็นของ สีจิ้นผิง ครั้งนี้ มีขึ้นหลังมีรายงานของสื่อก่อนหน้านี้ระบุว่า คนรุ่นใหม่มักหลีกเลี่ยงงานในโรงงาน และงานในภาคอุตสาหกรรมบริการมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- IMF เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน ปี 2024 ขึ้นเป็น 5% แต่อีก 5 ปีข้างหน้าการเติบโตจะชะลอลงเหลือปีละ 3.3%
- ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ 3 ผู้นำ ‘จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้’ จะพบกันในช่วงเวลานี้! ฟื้นสัมพันธ์การค้าในรอบ 5 ปี มีนัยอะไรซ่อนอยู่
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการจีนซึ่งเปิดเผยในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ประเมินว่า จะมีหนุ่มสาวชาวจีนผู้สำเร็จการศึกษาเกือบ 11.8 ล้านคน เดินเข้าสู่ตลาดงานของจีนในปี 2024 เพิ่มขึ้น 2% จากปีที่แล้ว ท่ามกลางอัตราการว่างงานในกลุ่มคนอายุ 16-24 ปีที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่ 2023 โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขก่อนที่รัฐบาลจีนจะเปลี่ยนวิธีการนับเพื่อแยกนักเรียนออกจากวัยแรงงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาพการว่างงานที่แม่นยำขึ้น
ล่าสุด อัตราการว่างงานในกลุ่มชาวจีนอายุ 16-24 ปี อยู่ที่ 14.7% ในเดือนเมษายน ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนมีนาคมก่อนหน้า
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนยังได้เน้นย้ำถึงประเด็นอื่นๆ ที่ต้องการความก้าวหน้าในการปฏิรูป เช่น ทรัพย์สิน การจ้างงาน และการดูแลเด็ก ขณะที่ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ติงเสวี่ยเซียง (Ding Xuexiang) รองนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นมาเรียกร้องให้รัฐเพิ่มความพยายามเพื่อประกันการจ้างงานที่มั่นคงในหมู่คนหนุ่มสาว
Alicia Garcia Herrero หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ Natixis SA ชี้ว่า ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของสีจิ้นผิงในช่วงเวลานี้ ถือเป็นการเตรียมชาวจีนให้พร้อมสำหรับการประชุมครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 (The Third Plenum) โดยเจ้าตัวคาดหวังว่ารัฐบาลจะดำเนินนโยบายต่างๆ เช่น การให้เงินอุดหนุนการจ้างงานโดยการเพิ่มแรงจูงใจทางการเงินสำหรับบริษัทและมหาวิทยาลัย ในการจัดหาตำแหน่งงานเพิ่มเติมสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาล่าสุด และกลายเป็นหน้าใหม่ในแวดวงการทำงาน
อ้างอิง:
