ในยุคที่กลุ่มคนมิลเลนเนียลมีจำนวนมากกว่า 45% ของประชากรทั้งหมดในเอเชียแปซิฟิก และกำลังเพิ่มเป็น 60% ภายใน 2 ปีข้างหน้า เรามิอาจปฏิเสธได้ว่าคนกลุ่มนี้กำลังกลายเป็นผู้บริโภคหลักในทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ชาวมิลเลนเนียลให้ความสนใจ นิยมจับจ่ายใช้สอย และนำมาใช้เป็นเครื่องมือบาลานซ์ชีวิตกับหน้าที่การงาน

 

Amadeus ผู้นำการให้บริการข้อมูลเพื่อการเดินทางและการท่องเที่ยวระดับโลกร่วมมือกับ YouGov สำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยว 6,870 คน ใน 14 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เกี่ยวกับพฤติกรรมด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มมิลเลนเนียล ภายใต้โจทย์ Journey of Me Insights: What Asia Pacific Millennial Travelers Want อะไรคือสิ่งที่นักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียลในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกต้องการ ผลสำรวจที่ได้แบ่งเป็นหัวข้อดังนี้

 

สนใจสิ่งแปลกใหม่มากกว่าประหยัดค่าเดินทาง

เรามักคิดว่า ‘ตั๋วถูก’ หรือ ‘ค่าใช้จ่ายถูก’ ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวยุคใหม่ได้มากกว่าสถานที่ สังเกตจากหัวข้อตามเว็บบอร์ดหรือเว็บไซต์ชื่อดังทั้งหลายที่ชอบพาดหัวว่า ‘เที่ยว…(ชื่อสถานที่)…งบ…(จำนวนเงิน)…บาทก็เที่ยวได้’ หากแต่ผลวิจัยของ Amadeus บอกว่า ชาวมิลเลนเนียลสนใจ ‘คำแนะนำเพื่อค้นพบประสบการณ์แปลกใหม่’ มากกว่า ‘คำแนะนำที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง’ ถึง 10% ทั้งยังเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ระหว่างท่องเที่ยวด้วย ไม่ว่าจะเป็น การสัญจรผ่านบริการแอปฯ Grab และ Uber จองห้องพักผ่าน Airbnb และจองห้องอาหารผ่านแอปฯ เพื่อลิ้มลองอาหารมีชื่อของประเทศนั้นๆ นอกจากนี้เมื่อเจาะลึกมาถึงชาวไทย พบว่า 77% ของมิลเลนเนียลชาวไทย สนใจการใช้งานแอปพลิเคชันที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนผสานโลกจริง (Augmented Reality) ในการนำเสนอข้อมูลวัฒนธรรมหรือประวัติของสถานที่ท่องเที่ยว สูงกว่ายอดเฉลี่ยของภูมิภาคซึ่งอยู่ที่ 67%

 

 

เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ไม่ได้มีอิทธิพลต่อกลุ่มมิลเลนเนียลมากเท่าที่เราคิด

เมื่อถามว่าใครมีอิทธิพลต่อพวกเขามากที่สุดในการวางแผนทริป มิลเลนเนียลชาวไทยบอกว่า ข้อมูลในโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ท่องเที่ยวมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของพวกเขามากที่สุด โดยคำแนะนำจากครอบครัวและเพื่อนมีอิทธิพลรอง ขณะที่บุคคลที่มีชื่อเสียงและอินฟลูเอนเซอร์ถือเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลเกือบจะต่ำที่สุดสำหรับมิลเลนเนียลทั้งในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิก ซึ่งสูงกว่าโบรชัวร์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเพียงนิดเดียวเท่านั้น

 

“คนกลุ่มมิลเลนเนียลยังคงติดตามอินฟลูเอนเซอร์เพื่ออัปเดตเทรนด์ หาไอเดียและแรงบันดาลใจใหม่ๆ แต่ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีความชาญฉลาดมากขึ้นในการเสพข้อมูล พวกเขารู้ว่าอินฟลูเอนเซอร์จำนวนไม่น้อยกำลังกลายสถานภาพเป็นแบรนด์ ซึ่งทำให้ความน่าเชื่อถือที่เคยทำให้กลุ่มคนเหล่านี้แตกต่างค่อยๆ หายไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคอนเทนต์ที่จริง สำคัญกว่าคอนเทนต์ที่สมบูรณ์แบบ” นายการุณ พุทธราชา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร อมาเดอุส เอเชียแปซิฟิก กล่าว

 

กล้าเสี่ยงแต่ระมัดระวัง

มิลเลนเนียลมักถูกมองว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่กล้าเสี่ยงและชื่นชอบการผจญภัยเมื่อเทียบกับคนรุ่นก่อนๆ พวกเขามีความกังวลน้อยกว่าหากต้องเดินทางไปสถานที่ซึ่งมีสภาพอากาศรุนแรง มีการก่อการร้าย หรือมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย 71% ของเบบี้บูมเมอร์ชาวไทยมีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงการเดินทางไปสถานที่เพิ่งเกิดเหตุการณ์ก่อการร้าย ในขณะที่มีมิลเลนเนียลเพียง 61% ที่มีความรู้สึกกังวล

 

ในทางตรงกันข้าม ห้ามถามถึงเรื่องการแบ่งปันข้อมูลส่วนตัว กลุ่มมิลเลนเนียลกลับหวงแหนความเป็นส่วนตัวมากกว่าคนรุ่นก่อนๆ โดย 73% ของ Gen X ชาวไทยบอกว่า พวกเขาค่อนข้างเปิดรับการแบ่งปันข้อมูลส่วนตัว ในขณะที่มิลเลนเนียลเปิดรับเพียง 65%

 

แม้ว่าผลวิจัยชิ้นนี้จะชี้ให้เห็นลักษณะเฉพาะตัวของมิลเลนเนียลในเอเชียแปซิฟิก แต่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็มีพฤติกรรมบางอย่างที่ยังคงคล้ายคลึงกับนักท่องเที่ยวรุ่นก่อนๆ อยู่เป็นพื้นฐาน หากแต่เทคโนโลยีได้เข้ามาทำให้พวกเขากล้าที่จะแตกต่างออกไป ดังนั้นฝ่ายผู้ประกอบการหรือผู้สนใจธุรกิจท่องเที่ยวคงต้องเพิ่มการสร้างสรรค์บริการโดยเฉพาะบุคคล และเลือกสื่อสารบนพื้นฐานความจริงมากขึ้น ในช่องทางและช่วงเวลาที่เหมาะสม หากต้องการคุยกับคนกลุ่มนี้

 

Photo: Shutterstock