วันนี้ (24 พฤษภาคม) ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อขอไฟล์ภาพกล้องวงจรปิดในห้วงเวลาการเสียชีวิตของ เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง นักกิจกรรมทางการเมือง ตามที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ระบุว่า สามารถให้ไฟล์ภาพได้ แต่ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบลำดับภาพให้เรียบร้อยก่อนว่าไม่ขัดหรือกระทบต่อสิทธิของผู้ป่วยรายอื่นๆ ในเหตุการณ์ ซึ่งต่อมาได้มีการนัดหมายว่าจะมาดูภาพวงจรปิดในวันนี้
กฤษฎางค์ระบุว่า วันนี้เดินทางมาตั้งแต่เวลา 08.40 น. ซึ่งต่อมา สายน้ำ-นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ เพื่อนนักกิจกรรมร่วมกับบุ้ง ได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบขอภาพวงจรปิดกับทนายความด้วย
หลังใช้เวลาตรวจสอบภาพวงจรปิดประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เวลา 10.00 น. กฤษฎางค์เดินทางออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่า ทางกรมราชทัณฑ์ไม่ให้ไฟล์ภาพกล้องวงจรปิดเช้าวันที่ 14 พฤษภาคม ในขณะที่บุ้งรักษาตัวจนเกิดอาการป่วยหมดสติแก่ทนายความ โดยให้เหตุผล 3 ข้อ คือ
- ในภาพวงจรปิดปรากฏภาพของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่รักษาผู้ป่วย จึงเกรงว่าจะกระทบต่อเจ้าหน้าที่เหล่านั้น
- เกรงว่าจะกระทบต่อความมั่นคง เนื่องจากเป็นการเปิดเผยภาพวงจรปิดภายในสถานคุมขัง
- เกรงว่าจะกระทบต่อความเสียหายแก่ผู้เสียชีวิต เนื่องจากปรากฏภาพขณะที่ทางเจ้าหน้าที่รักษาผู้เสียชีวิต
กฤษฎางค์กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เกรงว่าทีมทนายความจะนำภาพวงจรปิดไปเผยแพร่แก่สื่อสาธารณะ จึงอาจจะกระทบต่อเหตุผล 3 ข้อหลักที่ได้กล่าวไปข้างต้น กรมราชทัณฑ์จึงตัดสินใจที่จะไม่มอบไฟล์ภาพวงจรปิดแก่ทนายความ
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์อ้างว่าได้ทำหนังสือส่งไปถึงผู้ปกครองของบุ้งให้มาดูภาพวงจรปิดตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมแล้ว และแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า ทนายความสามารถที่จะอุทธรณ์คำสั่งการไม่ให้ภาพวงจรปิดต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารทางราชการและฟ้องศาลปกครองได้
กฤษฎางค์กล่าวต่อว่า ทั้ง 3 เหตุผลนั้นฟังไม่ขึ้น ตนมองว่าเหตุผลข้อแรก หากไม่ต้องการให้ปรากฏภาพของบุคคลอื่น สามารถเบลอหรือใส่สติกเกอร์ปิดบังใบหน้าได้ ส่วนเหตุผลข้อ 2 นั้นตนมองว่าเรื่องความมั่นคงเป็นเพียงข้ออ้าง เพราะเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ก็อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์และเผยแพร่แผนผังห้องรักษาพยาบาลต่างๆ ภายในโรงพยาบาล โดยที่ไม่ได้มีการแจ้งกับตนและครอบครัวของบุ้งล่วงหน้า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นการบันทึกภาพออกมาก็ตาม แต่มองว่านี่ก็ถือเป็นการเผยแพร่ข้อมูลภายในโรงพยาบาลออกมาแล้ว จึงมองว่าเรื่องของความมั่นคงนั้นฟังไม่ขึ้น
ส่วนเหตุผลข้อสุดท้าย ในเรื่องของการกระทบกับผู้เสียชีวิตนั้นตนยืนยันว่า ครอบครัวของบุ้งรับได้กับภาพการเสียชีวิตของบุ้ง เพราะก่อนหน้านี้ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติยังได้เชิญครอบครัวไปร่วมสังเกตการณ์การผ่าชันสูตรพลิกศพบุ้ง
ส่วนข้อกังวลของกรมราชทัณฑ์ที่เกรงว่าทนายความจะนำไฟล์ภาพวงจรปิดมาเผยแพร่แก่สื่อมวลชนนั้นตนยืนยันว่าไม่เคยคิดจะทำเช่นนั้น และตั้งใจจะไม่ส่งภาพวงจรปิดแก่สื่อมวลชน เพราะก่อนหน้านี้ตนได้เอกสารเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของบุ้งมา ตนก็ยังไม่เปิดเผยแก่สื่อมวลชนเลย
กฤษฎางค์กล่าวยืนยันว่า ตนและครอบครัวของบุ้งต้องการภาพวงจรปิด เพื่อมาตอบคำถามและพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าบุ้งเสียชีวิตได้อย่างไร โดยเฉพาะในเรื่องของช่วงเวลาตั้งแต่บุ้งเกิดอาการจนหมดสติ และการเข้าให้การช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ว่าสอดคล้องกับช่วงเวลาและการปฏิบัติตามที่รายงานของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ ไม่ได้ต้องการที่จ้องจะเอาผิดใดๆ เพราะเนื่องจากว่าคนตายก็ได้ตายไปแล้ว หากเกิดข้อผิดพลาดด้วยแนวปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ก็อยากให้มีการแก้ไข เพื่อสร้างบรรทัดฐานการดูแลผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังไม่ว่าจะเป็นคดีการเมืองหรือคดีอาญาทั่วไปก็ตาม
ส่วนตัวมองว่าถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง เพราะก่อนหน้านี้ทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็รับปากว่าจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อให้การเสียชีวิตของบุ้งเกิดความกระจ่างและคลายข้อสงสัยของประชาชน อีกทั้งรัฐมนตรีเองยังรับปากว่าสามารถนำไฟล์ภาพวงจรปิดมาได้
ตนเข้าใจและไม่ถือโทษกับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เพราะเนื่องจากว่าพวกเขาก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งที่ผู้ใหญ่สั่งการมาอีกทีหนึ่ง แต่ตนเชื่อว่าน่าจะมีคำสั่งจากใครบางคนที่มีอำนาจเหนือกรมราชทัณฑ์ สั่งการไม่ให้นำไฟล์วงจรปิดมอบให้แก่ตน ตนจึงมองว่าการกระทำเช่นนี้ของกรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมนั้นไม่ถูกต้อง แทนที่จะทำให้สังคมคลายข้อสงสัยในแนวปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ กลับยิ่งทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยเข้าไปใหญ่ อีกทั้งตอนนี้ก็ยังมีนักโทษอีกหลายรายที่ล้มป่วยพักรักษาในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยเฉพาะนักโทษคดีการเมือง จึงมองว่า แล้วพวกญาติของผู้ต้องขังจะให้ความเชื่อมั่นแก่การปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ได้อย่างไร ดังนั้นเรื่องนี้รัฐบาลเองต้องออกมารับผิดชอบ
กฤษฎางค์กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ตนคงไม่ได้ดำเนินการเรียกร้องในเรื่องของการอุทธรณ์คำสั่งแต่อย่างใด เพราะถ้าหากว่าทางกรมราชทัณฑ์อ้างว่าส่งหนังสือไปยังครอบครัวแล้ว ก็ให้เป็นไปตามนั้น แต่จากการสอบถามครอบครัวของบุ้งเบื้องต้นยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว และไม่ทราบว่ากรมราชทัณฑ์ตั้งเงื่อนไขให้เฉพาะครอบครัวของบุ้งดูภาพวงจรปิดหรือไม่
ตนยืนยันว่าจะเดินหน้าในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อหาความจริงและตอบข้อสงสัยความเคลือบแคลงต่อการเสียชีวิตของบุ้งให้ได้ โดยในห้วง 2-3 วันหลังจากนี้ตนจะรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับการการรักษาของบุ้งเพื่อให้ได้เป็นข้อมูลเบื้องต้น ก่อนจะตั้งโต๊ะแถลงชี้ถึงข้อสงสัยการเสียชีวิตของบุ้งโดยละเอียดอีกครั้ง