รัฐบาลบราซิลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเมืองเซาเปาลูและรีโอเดจาเนโรเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) หลังคนขับรถบรรทุกรวมตัวกันนำรถออกมาปิดถนนเส้นหลักเพื่อประท้วงค่าน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวขึ้นอย่างมาก สืบเนื่องจากเกิดภาวะขาดแคลนเชื้อเพลิงทั่วประเทศ เหตุประท้วงดังกล่าวส่งผลให้การจราจรทั่วเมืองเป็นอัมพาต ล่าสุดประธานาธิบดีมิเชล เทเมอร์ ได้ส่งกำลังทหารและตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่ และเกิดการเผชิญหน้ากับผู้ประท้วงจนสถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น
การประท้วงในบราซิลดำเนินต่อเนื่องสู่วันที่ 5 และมีทีท่าว่าจะบานปลายขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคนขับรถบรรทุกซึ่งเดือดร้อนจากราคาน้ำมันแพง ได้นำรถออกมาจอดขวางถนนจนไม่สามารถใช้สัญจรได้ ขณะที่ผู้ประท้วงประกาศว่าจะรวมตัวกันปิดถนนต่อในวันนี้ (26 พ.ค.)
เทเมอร์แถลงสดออกโทรทัศน์บราซิลว่า “ผมได้สั่งการให้กองกำลังรักษาความมั่นคงแห่งชาติเข้าเคลียร์ทางหลวงแล้ว และขอให้ผู้ว่าการรัฐทั่วประเทศทำเช่นเดียวกัน”
วิกฤตขาดแคลนเชื้อเพลิงต่อด้วยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นทั่วเมืองเซาเปาลูและรีโอเดจาเนโร โดยประชาชนได้แห่กักตุนสินค้าอุปโภคบริโภคจนเกลี้ยงเชลฟ์ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารหลายแห่งไม่มีอาหารจำหน่าย โรงพยาบาลเริ่มขาดแคลนเวชภัณฑ์ ขณะที่โรงงานบางแห่งได้ปิดตัวลงหรือปิดกิจการชั่วคราว
ยิ่งไปกว่านั้นตามปั๊มน้ำมันและสนามบินทั่วประเทศยังเกิดภาวะเชื้อเพลิงร่อยหรอลงทุกขณะ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบขนส่งสาธารณะทั่วประเทศ ล่าสุดมีการลดจำนวนเที่ยวรถบริการขนส่งมวลชน ลามไปถึงโรงเรียนหลายแห่งที่ประกาศงดการเรียนการสอน เนื่องจากครูไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้
นอกจากค่าน้ำมันที่พุ่งพรวดขึ้นแล้ว ชาวบราซิลยังโกรธแค้นรัฐบาลจากข่าวอื้อฉาวการคอร์รัปชันที่เกี่ยวโยงกับนักการเมืองหลายคน รวมถึงตัวประธานาธิบดีเทเมอร์ด้วย
Photo: AFP
อ้างอิง: