TikTok และ ByteDance บริษัทแม่ในจีน ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ วานนี้ (7 พฤษภาคม) เพื่อขัดขวางกฎหมายที่ลงนามบังคับใช้โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อบังคับให้ ByteDance ขาย TikTok ให้แก่บริษัทอเมริกันหรือถูกแบนจากการใช้งานในสหรัฐฯ
การยื่นฟ้องดังกล่าวมีขึ้นที่ศาลอุทธรณ์ในกรุงวอชิงตันดีซี โดย TikTok ให้เหตุผลว่า กฎหมายดังกล่าวละเมิดรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ในหลายประการ รวมถึงบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 (First Amendment) ซึ่งห้ามการออกกฎหมายลดทอนเสรีภาพในการพูด
ไบเดนได้ลงนามกฎหมายเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กำหนดให้ ByteDance ต้องขายแอปพลิเคชันคลิปวิดีโอสั้นยอดนิยมที่มีชาวอเมริกันใช้งานกว่า 170 ล้านคน ภายในวันที่ 19 มกราคม 2025 ก่อนจะเผชิญการแบนใช้งานทั่วประเทศ
ByteDance ระบุในคำฟ้องว่า “เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่สภาคองเกรสได้ตรากฎหมายที่กำหนดให้แพลตฟอร์มด้านการพูดเพียงรายเดียว ถูกห้ามใช้งานอย่างถาวรทั่วประเทศ และห้ามชาวอเมริกันทุกคนไม่ให้เข้าร่วมในชุมชนออนไลน์ที่ไม่เหมือนใคร และมีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก”
โดยบริษัทยืนยันว่า การขายกิจการนั้นเป็นไปไม่ได้ ทั้งในเชิงพาณิชย์หรือเทคโนโลยี และไม่เป็นไปตามกฎหมาย
ที่ผ่านมา ทำเนียบขาวยืนยันว่า ไม่ต้องการแบน TikTok แต่ต้องการให้บริษัทแม่ในจีนอย่าง ByteDance สิ้นสุดการเป็นเจ้าของ TikTok ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ
ขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ จำนวนมากมีความกังวลว่าจีน อาจสามารถเข้าถึงหรือสอดแนมข้อมูลชาวอเมริกันได้ผ่านแอปพลิเคชัน TikTok แม้ TikTok จะปฏิเสธว่าไม่เคยเปิดเผยหรือส่งข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐฯ ให้แก่รัฐบาลจีน
จะเกิดอะไรหลังจากนี้ ?
การฟ้องร้องครั้งนี้ถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการต่อสู้ทางกฎหมายเพื่ออนาคตของ TikTok ในสหรัฐฯ ซึ่งกระบวนการอาจจบลงที่ศาลฎีกา และหาก TikTok แพ้ก็จะถูกแบนจากการใช้งานในสหรัฐฯ ในปีหน้า
โดยผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ByteDance มีแนวโน้มจะขอให้ศาลระงับไม่ให้กฎหมายของรัฐบาลกลางมีผลใช้บังคับชั่วคราว
ขณะที่กฎหมายกำหนดให้ ByteDance ขาย TikTok ให้กับผู้ซื้อที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งนับจากตอนนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 9 เดือน แต่หากการขายอยู่ระหว่างดำเนินการก็จะมีการยืดเวลาให้อีก 3 เดือน เพื่อให้ ByteDance ทำข้อตกลงให้เสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตาม คำฟ้องของ TikTok ระบุว่า รัฐบาลจีนได้แสดงความชัดเจนว่าจะไม่อนุญาตให้มีการขายเครื่องมือที่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของ TikTok ในสหรัฐฯ เช่น อัลกอริทึมในการฟีดข้อมูลผู้ใช้งาน
ด้านผู้เชี่ยวชาญหลายคนตั้งคำถามว่าจะมีผู้ซื้อที่มีศักยภาพและทรัพยากรทางการเงินมากพอที่จะซื้อ TikTok หรือไม่ และหากมีจะได้รับอนุญาตจากรัฐบาลจีนและสหรัฐฯ หรือไม่
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการย้าย Source Code ของแอป TikTok ไปยังสหรัฐฯ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกหลายปีสำหรับวิศวกรชุดใหม่ในการเรียนรู้
ภาพ: Anna Moneymaker / Getty Images
อ้างอิง:
