วันนี้ (7 พฤษภาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังจากที่เมื่อวานนี้ (6 พฤษภาคม) พาสื่อมวลชนและผู้ส่งออกลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ตรวจสอบข้าวจากโครงการจำนำในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งผู้สื่อข่าวถามแบบหยอกล้อว่า หลังทดลองกินวันนี้เสียหรือไม่ โดยภูมิธรรมตอบทันทีว่า “ไม่เสีย โอ้โห สบายมาก”
ภูมิธรรมกล่าวต่อไปว่า เมื่อวานนี้เป็นการตรวจคุณภาพข้าว ชิมแล้วไม่มีกลิ่นหืน ไม่มีความรู้สึกว่าจะกินไม่ได้ ความหอมอาจจะลดลง ไม่เหมือนข้าวใหม่ แต่ความนุ่มนวลไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นหลังจากตรวจสอบ ผู้ประมูลก็สามารถไปหาโรงสีหรือปรับปรุงคุณภาพข้าวให้ดี เมื่อวานผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ก็ไปกินด้วย อธิบดีกรมการค้าภายในก็ไปด้วย ทั้งยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมกิน
“ไม่อยากให้เอาจินตนาการมาชี้นำความจริง เรื่องนี้เราพยายามทำให้เรื่องราวต่างๆ ของประเทศจบลงด้วยดีและสามารถนำเงินกลับเข้าประเทศได้ อย่างน้อยถ้าประมูลได้ราคามาตรฐาน 17-18 บาทก็จะมีรายได้เข้ามาถึง 200-400 ล้านบาท” ภูมิธรรมกล่าว
ส่วนการไปดำเนินการส่วนนี้จะส่งผลต่อการรื้อฟื้นคดีโครงการจำนำข้าวมาพิจารณาใหม่หรือไม่นั้น ภูมิธรรมบอกว่า เรื่องนั้นไม่ใช่เป้าหมาย ตนเองมีหน้าที่ขนข้าวในคลังออกไปขาย ดีกว่าปล่อยให้เน่าเสียประมาณกว่า 150,000 กระสอบ ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ ก็ถึงขั้นขายไม่ได้ ตอนแรกตนเองก็ไม่มั่นใจ จนได้ไปดูและลองหุงมาชิม ก็รู้สึกว่าอร่อย ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมย้ำว่า อยากให้เรื่องนี้ปิดตำนานไปเสีย ส่วนในทางคดีจะเป็นอย่างไรไม่ใช่ภารกิจของตน ใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็ว่ากันไป
“เมื่อวานนี้ผมว่ามันคงยุติข้อกล่าวหาตอนแรกไปแล้ว เพราะดูแล้วเม็ดข้าวก็สวยงาม สีของข้าวมีปัญหาจริง ฝุ่นมีปัญหาจริง ก็ต้องไปซาวข้าว ซึ่งเอาจริงก็ไม่เกิน 15 ครั้ง เป็นเรื่องปกติของการหุงข้าวมากิน อย่าไปทำให้มันเกิดความน่ากลัว ใครสงสัยผมก็บอกแล้วให้ไปดูด้วยกัน” ภูมิธรรมกล่าวทิ้งท้าย
กินข้าวโชว์ ไม่ได้ลบล้างคดีเก่า
ด้าน ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ดูจากข้อเท็จจริงแล้ว เจ้าหน้าที่นำข้าวสารไปเตรียมการหุง ก่อนหุงข้าวซาว 13-15 น้ำนั้น น้ำซาวข้าวมีมอดลอยอยู่เป็นจำนวนมาก ย่อมแสดงให้เห็นว่าข้าวไม่ได้คุณภาพอย่างแท้จริง ภูมิธรรมควรเอาข้าวในโกดังดังกล่าวไปหุงให้รัฐมนตรีได้กินกันทั้งคณะในทุกวันอังคารที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ต้องแนะนำแม่บ้านที่หุงข้าวไม่อยากให้ซาวน้ำหลายครั้ง เพราะถ้าซาวน้ำมากกว่า 3 ครั้ง อาจจะทำให้สูญเสียสารอาหารและกลิ่นหอมในข้าวได้ ก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและประหยัดค่าใช้จ่ายได้
ราเมศยังชี้ว่า การตักข้าวใส่ปากกินโชว์ของรองนายกรัฐมนตรีไม่ใช่มาตรฐานการตรวจวัดคุณภาพข้าว และภาพมันฟ้องว่า แม้แต่ตัวรองนายกรัฐมนตรีเองก็ไม่มีความกล้าเต็มร้อย เพราะเน้นกับไม่เน้นข้าว มีคนฝากถามช้อนซื้อที่ไหน ตักติดแต่กับ ไม่ค่อยติดข้าว และอีกอย่างที่รองนายกรัฐมนตรีมีความประสงค์จะสื่อสารคือ โครงการรับจำนำข้าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งการมากินข้าวโชว์ก็เช่นกันที่ไม่สามารถมาลบล้างเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาในคดีทุจริตรับจำนำข้าวได้แม้แต่บรรทัดเดียว