วันนี้ (2 เมษายน) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ท. สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมแถลงผลปฏิบัติการตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ที่ลักลอบลากสายอินเทอร์เน็ตมุดดินข้ามชายแดน
พล.ต.ท. ธัชชัย กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับกองกำลังบูรพา กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้เข้าตรวจค้นสำนักงานขายคอนโดมิเนียมร้างในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบฝังสายอินเทอร์เน็ตใต้ดินลากผ่านที่ดินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณด้านหลังอาคารดังกล่าวเป็นระยะทางยาวกว่า 700 เมตร เพื่อข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา
ทั้งยังพบว่าอาคารดังกล่าวมีการขอใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และมี IP เปิดให้บริการกว่า 384 หมายเลข โดยมีผู้ขอใช้บริการ 4 ราย และมีผู้ชำระค่าบริการรายเดือนคนเดียวกัน เชื่อได้ว่าเป็นการลักลอบนำสายอินเทอร์เน็ตออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ที่ตั้งฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านใช้โทรมาหลอกลวงคนไทย ซึ่งจะทำให้เบอร์โทรศัพท์ปรากฏเป็นหมายเลขภายในประเทศ
จากการตรวจสอบยังพบว่า มีบริษัทในกรุงเทพมหานครเป็นผู้จ่ายค่าเช่าสัญญาอินเทอร์เน็ตในอาคารดังกล่าว จึงได้เข้าตรวจค้นบริษัทให้บริการอินเทอร์เน็ตในแขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร พบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง 9 รายการ โดยจากการสอบถาม นาย ก ยอมรับว่า ได้รับจ้างมาอีกต่อหนึ่ง ให้ตนเองเป็นผู้ขอใช้อินเทอร์เน็ตและติดตั้งสัญญาณด้วยตนเอง
พล.ต.ท. ธัชชัย กล่าวต่อว่า ขบวนการดังกล่าวมีคนไทยในกัมพูชาเป็นผู้สั่งการเบื้องหลัง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม ฐานประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต, จัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์, ฉ้อโกงประชาชน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และความผิดฐานฟอกเงิน ถือเป็นข้อหาหนัก
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานจับกุมผู้ที่ร่วมติดตั้งลากสายอินเทอร์เน็ตข้ามประเทศรายอื่นๆ อยู่ โดยปฏิบัติการครั้งนี้พบว่ามีความสำคัญ เพราะคนร้ายมีการลักลอบนำสายอินเทอร์เน็ตออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ใช้หลอกลวงประชาชนในประเทศ
พล.ต.ท. ธัชชัย กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวหากไม่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลหรือนายทุนให้ความร่วมมือกับแก๊งอาชญากร ก็ไม่สามารถทำได้ หากเจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้กระทำผิดแล้วจะดำเนินคดีและโอนสำนวนให้ตำรวจสอบสวนกลางเป็นผู้ดำเนินการต่อไป และเร็วๆ นี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีปฏิบัติการครั้งใหญ่เพื่อกวาดล้างและเอาผิดกลุ่มผู้กระทำผิด ทั้งตู้จำหน่ายซิมที่ขายมากกว่า 100,000 ซิม และผู้ให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
ด้าน พล.ต. เทพพิทักษ์ นิมิตร ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา กล่าวว่า กองทัพบกได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในประเทศจากปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการพนันออนไลน์ ซึ่งผลปฏิบัติการครั้งนี้คาดว่าจะช่วยให้เกิดความมั่นคงภายในพื้นที่ตามแนวชายแดนและในประเทศมากยิ่งขึ้น