วันนี้ (21 มีนาคม) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงินงบประมาณ 3.48 ล้านล้านบาท ในวาระที่ 2 เรียงตามมาตรา ในการพิจารณามาตรา 17 ว่าด้วยงบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 15,025,964,400 บาท
นพณัฐ มีรักษา ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย อภิปรายถึงการจ้างที่ปรึกษาโครงการศึกษาผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของรัฐ 25 ล้านบาท ของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (กรมโลกร้อน) ว่าแพงเกินไปและไม่จำเป็น
ขณะที่ ร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส. พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายขอตัดงบ 25 ล้านบาทของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ในการจ้างที่ปรึกษาโครงการศึกษาผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของรัฐ 25 ล้านบาท โดยถามว่ามีการศึกษาอะไรเพราะเรามีข้อมูลอยู่แล้ว
ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอปรับลดเพียง 1% โดยให้เหตุผลว่า ให้นำงบไปแก้ปัญหาฝุ่นควันไฟป่าที่รัฐบาลปัจจุบันสามารถทำให้ฝุ่นควันใน 7 เดือนที่ผ่านมาลดลงจากปีที่แล้ว แต่ก็มีบางโครงการไม่เหมาะสม เช่น การจัดกิจกรรมประกาศเจตนารมณ์ดับไฟป่า 20 จังหวัด จังหวัดละ 2 ล้านบาท จึงอยากให้นำงบส่วนนี้ไปใช้กับอาสาสมัครที่เสี่ยงภัยในการปฏิบัติงานมากกว่า
พูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่างบกรมทรัพยากรน้ำบาดาลถูกปรับลดลงเหลือ 870 ล้านบาท ถูกตัดทิ้งทั้งที่ประเทศมีวิกฤตเรื่องน้ำ แต่กลับไม่ติดอาวุธให้หน่วยงาน ขณะที่งบกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมมีความทับซ้อนกับกรมควบคุมมลพิษ มีแต่งบงานอีเวนต์เป็นตัวตั้งที่ไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ควรเน้นเป้าหมายเรื่องการบรรลุยุทธศาสตร์ในการลดก๊าซเรือนกระจกให้ชัดเจน
จักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สส. สุโขทัย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกลี่ยงบไม่สมดุล กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้งบ 5.6 พันล้านบาท ทั้งที่มีรายได้จากการเก็บค่าเช่าอุทยานแห่งชาติมากอยู่แล้ว มีรายได้ต่อปี 1 พันล้านบาท แต่กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ที่มีส่วนสำคัญแก้ปัญหาภัยแล้งกลับได้รับงบประมาณไม่เพียงพอ อย่างกรมป่าไม้มีอุปกรณ์ดับไฟป่าแค่ไม้กวาด เครื่องเป่าลม ควรได้รับงบเพิ่มเพื่อไปซื้ออุปกรณ์ดับไฟป่าที่ทันสมัย
ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส. กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ. ชี้แจงว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 แก้ไขปัญหาอยู่ตลอดเวลา แต่ปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นเรื่องส่วนรวม ประชาชนต้องให้ความร่วมมือ ถ้าให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงฯ เพียงอย่างเดียวการแก้ปัญหาจะใช้เวลานาน
ก่อนที่ที่ประชุมจะลงมติเห็นชอบตัดงบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 38 ล้านบาท ตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก
