สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (National Astronomical Research Institute of Thailand: NARIT) เผยแพร่ข้อมูล ระบุว่าวันพรุ่งนี้ (20 มีนาคม) จะถือเป็นวัน ‘วสันตวิษุวัต (Vernal Equinox)’ หรือวันที่ช่วงเวลากลางวัน ยาวเท่ากับเวลากลางคืน โดยดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตกพอดี
คำว่า Equinox นั้นมีรากศัพท์มาจากภาษาละติน 2 คำ คือ Aequus ที่แปลว่า เท่ากัน และ Nox แปลว่า กลางคืน ดังนั้น Equinox จึงหมายถึงวันที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน ตรงกับคำว่า วิษุวัต ที่แปลว่า ‘จุดราตรีเสมอภาค’ หรือจุดที่ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลกพอดี
โดยวันที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากันนี้จะเกิดขึ้นเพียง 2 ครั้งต่อปี คือในช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ เรียกว่า วันวสันตวิษุวัต และในช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง เรียกว่า วันศารทวิษุวัต (Autumnal Equinox)
ปกติแล้วในแต่ละวันดวงอาทิตย์จะปรากฏในตำแหน่งต่างกัน เปลี่ยนตำแหน่งไปประมาณวันละ 1 องศา และตั้งแต่เดือนธันวาคมดวงอาทิตย์จะเคลื่อนจากจุดใต้สุดขึ้นมาทางเหนือเรื่อยๆ จนถึงตำแหน่งที่ตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลก
โดยในวันที่ 20 มีนาคมนี้ ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออก และจะตกทางทิศตะวันตกพอดี สำหรับประเทศไทย ดวงอาทิตย์จะขึ้นในเวลาประมาณ 06.22 น. และตกลับขอบฟ้าเวลาประมาณ 18.28 น. (เวลา ณ กรุงเทพมหานคร) นับเป็นวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิของประเทศทางซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วงของประเทศในซีกโลกใต้
การที่แกนโลกเอียงทำมุม 23.5 องศา กับแนวตั้งฉากกับระนาบโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ทำให้พื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกได้รับแสงอาทิตย์ในปริมาณไม่เท่ากัน ส่งผลให้มีอุณหภูมิต่างกัน รวมถึงระยะเวลากลางวันและกลางคืนก็ต่างกัน ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดฤดูกาลต่างๆ ขึ้นบนโลก
สำหรับปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ในครั้งถัดไปตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน เป็นวันครีษมายัน (Summer Solstice) ที่ช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี และนับเป็นวันเริ่มต้นฤดูร้อนของประเทศทางซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นฤดูหนาวของประเทศในซีกโลกใต้
อ้างอิง: