วันนี้ (15 มีนาคม) สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจังหวัดเชียงใหม่ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 1 คนที่ 2 จะเป็นจริงว่า ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะทักษิณเป็นบุคคลสำคัญระดับโลก คนจึงให้ความสนใจเป็นเรื่องธรรมดา และปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนนิยมชมชอบทักษิณเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้กำลังใจและชื่นชม ไม่มีนัยทางการเมืองอะไร
ส่วนที่ไปดูโครงการต่างๆ ที่เคยทำและไปให้คำแนะนำเปรียบเสมือนเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น สุทินกล่าวว่า ทำไมถึงไม่มองว่าทักษิณเป็นที่ปรึกษา เพราะภาพแบบนั้นดูเหมือนจะเป็นที่ปรึกษามากกว่านายกรัฐมนตรี เมื่อไปเห็นโครงการต่างๆ ก็อาจจะให้คำแนะนำ ซึ่งควรจะมองเช่นนั้นมากกว่า
สุทินกล่าวว่า การลงพื้นที่ของทักษิณถือเป็นการเพิ่มกระแสความนิยมให้กับพรรคเพื่อไทย แต่ไม่ใช่การสร้างความนิยมให้กับตัวเอง เพราะท่านไม่มีความประสงค์ที่จะกลับมาการเมืองแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปสร้างกระแสความนิยม ส่วนที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ถือว่าเป็นเรื่องของความบังเอิญมากกว่า
ส่วนที่มีรัฐมนตรีติดตามทักษิณขณะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น สุทินระบุว่า ไปในฐานะคนที่นับถือกัน หากเป็นเรื่องส่วนตัวก็ไปได้ ซึ่งบางคนอาจจะขอคำปรึกษาในฐานะที่ทักษิณมีประสบการณ์ และมีความสำเร็จในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่น่าจะต้องคิดอะไรมาก
เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ของทักษิณจะทำให้ความสนใจใน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลดลงหรือไม่ สุทินระบุว่า “คนละระดับกัน เพราะเศรษฐาถือเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง ส่วนทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ความนิยมจึงเป็นคนละแบบ เพราะอีกคนมีอดีตที่ยิ่งใหญ่ ส่วนอีกคนเป็นปัจจุบันที่ยิ่งใหญ่ เชื่อว่าประชาชนแยกออก แต่ถ้าหากประชาชนจะเรียกร้องให้ทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าท่านคงไม่มา เพราะตอนนี้ท่านอยู่ในสถานะให้คำปรึกษากับทุกคน ทุกรัฐบาล คิดว่าเป็นประโยชน์กว่า”
สุทินยังยืนยันว่า บทบาทของทักษิณไม่ถือเป็นอิทธิพล แต่มีบทบาทในการแนะนำและถ่ายทอดประสบการณ์มากกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของนายกรัฐมนตรีที่ไปดูแลความปลอดภัยให้กับทักษิณคงเป็นการยืม คงไม่อยากใช้ตำรวจหน่วยอื่น คงอยากใช้ชุดที่ทำงานอยู่แล้ว ซึ่งตามความเป็นจริงเมื่อคนระดับนี้เดินทาง แม้ไม่ได้ร้องขอแต่ฝ่ายความมั่นคงก็จะต้องส่งเจ้าหน้าที่มาดูแล ส่วนตัวคิดว่าคงเอาคนที่ไว้ใจที่สุดไปดูแล เข้าใจว่าเจตนาเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ตนเองมีคิวที่จะเข้าพบทักษิณ แต่ขณะนี้ขอรอให้ท่านว่างก่อน เพราะว่าตนเองไม่รีบ