แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย พร้อมด้วย ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม แถลงข่าวร่วมกันภายหลังการหารือทวิภาคีที่กรุงแคนเบอร์ราในวันนี้ (7 มีนาคม) โดยประกาศยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและเวียดนาม ไปสู่ระดับหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership) พร้อมทั้งประกาศจัดการเจรจาความร่วมมือประจำปีด้านแร่ ท่ามกลางความพยายามผลักดันให้เกิดการกระจายห่วงโซ่อุปทานของแร่หายากต่างๆ ออกห่างจากจีน
“การยกระดับความสัมพันธ์ของเราในการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบรอบด้านในวันนี้ จะทำให้ออสเตรเลียและเวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของกันและกัน” อัลบาเนซีกล่าว
ภายใต้ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ดังกล่าว จะส่งเสริมการขยายความร่วมมือของทั้งสองประเทศในด้านต่างๆ รวมถึงสภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม พลังงาน การป้องกันและความมั่นคง ตลอดจนการมีส่วนร่วมทางด้านเศรษฐกิจและการศึกษา
ความสำเร็จ ‘การทูตไผ่ลู่ลม’
การยกระดับความสัมพันธ์กับออสเตรเลีย ถือเป็นความสำเร็จครั้งล่าสุดของรัฐบาลเวียดนามที่ใช้แนวทาง ‘การทูตแบบไผ่ลู่ลม (Bamboo Diplomacy)’ หลังจากเมื่อปีที่แล้วเวียดนามเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับหลายประเทศมหาอำนาจ ในขณะที่พยายามรับมือกับสถานการณ์ตึงเครียดทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้น
สื่อทางการเวียดนามรายงานข่าวการยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยระบุว่า “ความไว้วางใจทางการเมืองซึ่งกันและกันระหว่างสองประเทศ ได้รับการยกระดับไปถึงขั้นสูงสุดเท่าที่เคยมีมา”
นอกจากนี้ทั้งสองประเทศยังมีการแลกเปลี่ยนเอกสารความร่วมมือ 12 ฉบับ เช่น ด้านพลังงาน แร่ เกษตรกรรม การธนาคาร และการเงิน
ขณะที่การหารือประจำปีระดับรัฐมนตรีเกี่ยวกับพลังงานและแร่ จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือด้านพลังงานและทรัพยากรของทั้งสองประเทศ
โดยออสเตรเลียนั้นเป็นผู้ผลิตแร่หายากรายใหญ่ที่ใช้ในการผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีทุกอย่าง ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยนต์ ในขณะที่เวียดนามยังมีแหล่งแร่ที่ยังไม่ถูกนำไปใช้ใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก
ภาพ: David Gray / AFP
อ้างอิง: