Michael Burry ผู้จัดการกองทุนการเงินที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์เรื่อง The Big Short ซึ่งว่าด้วยเรื่องของ Burry ผู้หาโอกาสทำกำไรจากการก่อตัวของวิกฤตซับไพรม์ในปี 2008 เรียกเสียงฮือฮาในหมู่นักลงทุนและแฟนคลับอีกครั้ง หลังเจ้าตัวเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีของจีนอย่าง Alibaba และ JD.com สวนทางกระแสหุ้นของตลาด
ความเคลื่อนไหวข้างต้นส่งผลให้ปัจจุบัน Alibaba มีสัดส่วนในพอร์ตการลงทุนใหญ่ที่สุด หลังจากที่บริษัทการลงทุนของ Burry เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ 50% ในช่วงสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม คิดเป็นมูลค่ารวมที่ 5.81 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันก็เพิ่มน้ำหนักความน่าสนใจในการลงทุนไว้ที่ 5.79 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทเพิ่มตำแหน่งหุ้นอีก 75,000 หุ้น
จนถึงขณะนี้โครงสร้างทางเศรษฐกิจจีนยังคงเปราะบาง โดยนับตั้งแต่ต้นปีหุ้นของ Alibaba ลดลง 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี และ JD.com ร่วงลงเกือบ 20%
กระนั้นในฐานะนักลงทุนที่โด่งดังจากการทำกำไรในห้วงวิกฤต ความเคลื่อนไหวของ Burry จึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจแต่อย่างใด แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดเช่นกัน ท่ามกลางการแห่เทขายหุ้นจีนของบรรดานักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2024 เป็นต้นไป โดยข้อมูลพบว่าบรรดากองทุนทั่วโลกต่างเทขายหุ้นจีนคิดเป็นมูลค่ารวม 1.45 หมื่นล้านหยวนในเดือนมกราคม ทำสถิติเทขายต่อเนื่องในเดือนที่ 6
อ้างอิง: