วันนี้ (13 กุมภาพันธ์) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์นี้จะมีการนำความเห็นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาหารือหรือไม่ ว่าการประชุมเรื่องดังกล่าวจะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ จะชัดเจนเลยหรือไม่ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการอย่างไร ภูมิธรรมกล่าวว่า จะชัดหรือไม่จะเกิดขึ้นหลังการประชุมเสร็จว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนตัวมองข้อเสนอของ ป.ป.ช. ว่าเป็นข้อพึงสังวร เป็นข้อห่วงใยเหมือนกับที่หลายฝ่ายมีความคิดเห็นแตกต่างออกมา เมื่อมีการแสดงความคิดเห็นมาเราก็รับ และวันนี้รัฐบาลก็รับฟังความเห็นมาทุกแบบ ทั้งสนับสนุนเต็มที่ อยากให้ทำเร็วและให้ระมัดระวัง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช. อยากให้แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบางและใช้งบประมาณปกติ ภูมิธรรมกล่าวว่า สิ่งที่เห็นต่างกันคือโครงการนี้ไม่ใช่โครงการแจกเงิน จึงไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะต้องเอาเฉพาะผู้เปราะบางหรือไม่ เพราะโครงการนี้เป็นโครงการกระตุ้นสิทธิที่ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ประชาชนคนไทยทุกคนก็ต้องมีส่วนร่วมกับการกระตุ้นครั้งนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าโครงการกระตุ้นครั้งนี้จะเป็นการกระตุ้นครั้งใหญ่ไม่ใช่หยอดน้ำข้าวต้มใช่หรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า ความต้องการของเราคือการกระตุ้นครั้งใหญ่เพื่อให้เกิดการพลิกเศรษฐกิจ แต่การยืดออกไปเรื่อยๆ วันนี้ไม่จบ พรุ่งนี้ไม่จบ ปีนี้ไม่จบ ปีหน้าต่อๆ ไปก็ต้องดูว่าเป็นยาที่ใช้ได้กับสถานการณ์นั้นๆ หรือไม่ ซึ่งโครงการนี้ก็เริ่มคิดกันว่าจะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจโดยตอนนี้ก็ยังมีวิกฤตเช่นนั้นอยู่ การใช้จ่ายภาครัฐไม่มีเลย การท่องเที่ยวมีคนเข้ามาตัวเลขไม่น้อยแต่การใช้จ่ายน้อยลง ห้างสรรพสินค้าก็ไม่คึกคัก อยากให้ถามตัวเองวันนี้เราซื้ออะไรบ้างหรือซื้ออะไรน้อยลง หากซื้อน้อยเพราะเรามีกำลังซื้อที่น้อยลง เราก็ต้องดูแลจัดการตัวเองมากขึ้น ถ้าเศรษฐกิจยังซึมแบบนี้ ไม่มีอะไรกระตุ้น ก็เหมือนอย่างที่ตนบอกมันจะลามไปเรื่องอื่น ตอนนี้ลามไปที่วิกฤตการเงินเริ่มก่อตัว ตนคิดว่าทำใจกว้างๆ มีการพิจารณาที่รอบคอบ ดูความเป็นจริงของประชาชน ถ้าดูให้ครบถ้วน การใช้ดุลพินิจตัดสินใจต่างๆ จะใกล้เคียงกับชีวิตจริงของประชาชนมากขึ้น
ส่วนที่ ป.ป.ช. อ้างความเห็นนักวิชาการว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัวไม่ถึงขั้นวิกฤตนั้น ภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ถือเป็นความเห็นที่แตกต่างกันของนักวิชาการหลายค่าย แค่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมา 9 ข้อ บอกจะวิกฤตอย่างนั้นวิกฤตอย่างนี้ ก็ดูจะน่ากลัว แต่ข้อ 10 ที่บอกว่ากำลังซื้อจะค่อยๆ ขยาย แต่หากดู 9 ข้อข้างต้นก็ไม่รู้ว่าข้อ 10 จะขยายได้ ฉะนั้นเหล่านี้จึงเป็นความเห็นที่จะต้องนำมาพิจารณาร่วมกันด้วย วันนี้จึงอยากให้ทุกคนมาดูที่ความเป็นจริง ที่ผ่านมาการคาดการณ์เศรษฐกิจทุกปีก็จะบอกกันว่าปีที่แล้วผิดเพราะอะไร แล้วปีนี้จะคาดการณ์ใหม่ เราเคารพความเห็นที่ทุกฝ่ายเสนอมา แต่ทุกอย่างจะไม่ใช้จินตนาการอย่างเดียว ต้องเป็นจินตนาการที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
ภูมิธรรมยืนยันว่าวันนี้ฝ่ายบริหารและฝ่ายปฏิบัติไม่ได้เห็นต่างกัน แต่เราเห็นเหมือนที่ประชาชนเห็นว่าคนลำบาก แต่ฝ่ายที่นั่งวิเคราะห์ตัวเลขอาจจะดูเพียงทฤษฎีหรือตัวเลขอย่างเดียว ซึ่งมันเป็นปัญหา คนที่ดูฝ่ายวิชาการมักจะดูภาพรวมใหญ่ที่ไม่ใช่ภาพเล็ก แต่ภาพใหญ่มันต้องมาจากภาพเล็ก