วันนี้ (6 กุมภาพันธ์) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานอาการของ บุ้ง-เนติพร เสน่ห์สังคม โดยระบุว่า ล่าสุดเนติพรได้ถูกนำตัวส่งไปทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว หลังอดอาหาร-น้ำประท้วงเข้าสู่วันที่ 11 มีภาวะตับอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และอ่อนแรงมากจนเดินไม่ไหว
โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า หลังทนายความเข้าเยี่ยมเนติพรในช่วงเช้าวันนี้เสร็จสิ้น บุ้งก็ถูกพาตัวไปโรงพยาบาลทันที ทั้งนี้ บุ้งอดอาหาร-น้ำมาตั้งแต่เย็นวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีข้อเรียกร้อง 2 ข้อ ได้แก่ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และต้องไม่มีประชาชนถูกคุมขังเพราะเห็นต่างทางการเมืองอีก
เนติพรคือใคร
จากบทสัมภาษณ์ของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 โดยระบุว่า บุ้ง-เนติพร เสน่ห์สังคม เป็นติวเตอร์และนักกิจกรรมวัย 26 ปี เคลื่อนไหวเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันในนามกลุ่มทะลุวัง
เนติพรยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่าเขาเคลื่อนไหวโดยคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังเด็กๆ ที่เขาออกไปเคลื่อนไหว เพราะส่วนใหญ่ที่ออกมากันก็ยังเป็นเด็กอยู่ ยังไม่มีความพร้อมเรื่องทรัพยากร ก็จะช่วยหาเงินให้การเคลื่อนไหวของเขามันไปต่อได้
เด็กบางคนแค่ออกมาเคลื่อนไหวก็โดนพ่อแม่ทำร้ายร่างกาย เพราะว่าทัศนคติแตกต่างกัน โดนลิดรอนเสรีภาพ เราไม่มีแรงอำนาจภายในที่จะปกป้องเขาได้ เราก็เลยเลือกที่จะมาทำตำแหน่งนี้
โดยหนึ่งในการเคลื่อนไหวสนับสนุนในช่วงหลังคือกรณีการเคลื่อนไหวของหยก (เยาวชน) ที่ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นการศึกษา โดยมีเนติพรแสดงตัวเป็นผู้ปกครอง
เหตุใดเนติพรจึงถูกคุมขัง
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานด้วยว่า การถูกคุมขังครั้งนี้ของเนติพรเกิดจากการถูกกล่าวหาในคดีละเมิดอำนาจศาล ซึ่งต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ให้จำคุก 1 เดือน ขณะที่หยก (เยาวชน) ซึ่งถูกกล่าวหาในกรณีเดียวกัน ศาลเพียงตักเตือนเท่านั้น
โดยการถูกกล่าวหาดังกล่าวเกิดจากกรณีที่เดินทางไปศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อฟังคำพิพากษาและให้กำลังใจ โฟล์ค-สหรัฐ สุขคำหล้า ที่ถูกพิพากษาจำคุกในคดีมาตรา 112 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ซึ่งเนติพรเกิดการกระทบกระทั่งกับตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาล
อีกทั้งเนติพรยังถูกคุมขังจากเหตุการถอนประกันจากคำร้องขอถอนประกันของพนักงานสอบสวน ในคดีที่ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา 112 กรณีทำโพลขบวนเสด็จที่ห้างสยามพารากอนเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 โดยพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลถอนประกัน และศาลมีคำสั่งให้ถอนประกันตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ เพราะผิดเงื่อนไขการประกันตัวในคดีดังกล่าว
ข้อความจากเนติพรผ่านศูนย์ทนายฯ
เนติพรฝากความผ่านศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ว่า “ถ้าตายไปก็ไม่เป็นไร จะได้ประจานความอยุติธรรมของศาล กระบวนการยุติธรรมและเรือนจำของไทย ว่าไม่ได้เห็นผู้ต้องขังเป็นคน กระบวนการที่บอกว่าให้รับโทษในนี้เพื่อให้คนกลับตัวเป็นคนดีไม่มีจริงหรอก
“ไม่รู้ว่าจะไหวถึงวันไหน แต่ขอให้ทุกคนตระหนักว่าการมีผู้พิพากษาที่ไม่ยุติธรรม คนที่ตกเป็นเหยื่อคือคนไทยทุกคน”
อ้างอิง: