Travel + Leisure Co. (NYSE:TNL) บริษัทท่องเที่ยวและเจ้าของกรรมสิทธิ์วันหยุดร่วมชั้นนำของโลก ได้ประกาศข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการในส่วนธุรกิจเจ้าของกรรมสิทธิ์วันหยุดร่วมของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก Accor (AC:FP) มูลค่า 48.4 ล้านดอลลาร์ การซื้อกิจการคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปี 2567 และจะเพิ่มรายได้ให้กับ Travel + Leisure Co. ทันทีเมื่อการทำสัญญาเสร็จสิ้น
ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลง Travel + Leisure Co. จะเข้าซื้อกิจการในส่วนธุรกิจเจ้าของกรรมสิทธิ์วันหยุดร่วมของ Accor Vacation Club ซึ่งรวมถึงรีสอร์ต 24 แห่งและสมาชิกคลับอีกกว่า 30,000 คน โดย Accor เป็นเครือโรงแรมระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก มีโรงแรมเปิดดำเนินการมากกว่า 1,600 แห่ง ทำให้แบรนด์มีข้อได้เปรียบที่โดดเด่นจากการได้รับการยอมรับในภูมิภาคที่มีประชากรมากที่สุดในโลก Accor จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการขายกิจการในส่วนธุรกิจเจ้าของกรรมสิทธิ์วันหยุดร่วมเป็นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตภายใต้ข้อตกลงอนุญาตให้ Travel + Leisure Co. ใช้สิทธิ์โดยเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียว
Travel + Leisure Co. ยังได้รับสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการพัฒนาคลับและธุรกิจเจ้าของกรรมสิทธิ์วันหยุดร่วมใหม่โดยใช้แบรนด์ Accor Vacation Club ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา และตุรกี
เมื่อการทำสัญญาเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนธุรกิจของ Accor Vacation Club จะขึ้นตรงต่อ แบร์รี โรบินสัน ประธานและกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการระหว่างประเทศของ Travel + Leisure Co. ซึ่งประจำอยู่ในสำนักงานประเทศสิงคโปร์
“เรารู้สึกตื่นเต้นกับการต่อยอดธุรกิจของ Accor Vacation Club ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับในภูมิภาคมากว่า 20 ปี เราเป็นพันธมิตรที่ได้รับเลือกจากแบรนด์ชั้นนำด้านการบริการ เพราะเราสามารถดูแลจัดการแบรนด์ของบริษัทโดยที่ยังรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์นั้นเอาไว้ได้ ด้วยประสบการณ์และขนาดของแพลตฟอร์มระดับโลกของเรา เราจะสามารถขยายการเติบโตของธุรกิจเจ้าของกรรมสิทธิ์วันหยุดร่วมแห่งนี้ด้วยการมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือระดับให้กับสมาชิกทั้งในปัจจุบันและอนาคต” โรบินสันกล่าว
การซื้อกิจการครั้งนี้จะสร้างสายธุรกิจใหม่สำหรับ Travel + Leisure Co. เนื่องจาก Accor ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มแบรนด์ของบริษัท ซึ่งรวมถึง Wyndham, Margaritaville และ Sports Illustrated การเพิ่ม Accor Vacation Club เข้าไปในกลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศของ Travel + Leisure Co. ช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกอีกกว่า 10,000 รายทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และทำให้จำนวนคลับรีสอร์ตเพิ่มขึ้นประมาณ 40% เป็น 77 แห่ง
รีสอร์ต Accor Vacation Club ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินโดนีเซีย ภายใต้แบรนด์ Accor Peppers, MGallery, Grand Mercure, The Sebel, Novotel, Mantra และ Mercure ทั้งในเขตนูซาดัวร์ที่โด่งดังในบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย, ดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์อันงดงามในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย รวมถึงเมืองหลวงแห่งการท่องเที่ยวแนวผจญภัยในภูมิภาคแปซิฟิกใต้อย่างเมืองควีนส์ทาวน์ในประเทศนิวซีแลนด์
ด้าน ดันแคน โอ โรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Accor MEA APAC แผนกธุรกิจพรีเมียมระดับกลาง กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวนี้เน้นย้ำถึงการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องของ Accor
“ธุรกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ลดการถือครองสินทรัพย์ของเรา ช่วยให้เราสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจที่มีอยู่ และขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเครือข่ายโรงแรมแฟรนไชส์ของเราทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการขายธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับ เราจะสามารถต่อยอดขยายธุรกิจและขับเคลื่อนประสบการณ์การบริการที่ดีเยี่ยมสำหรับสมาชิก Accor Vacation Club ได้อย่างต่อเนื่อง” โรค์กล่าว
ภาพ: mgstudyo / Getty Image