หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9:0 วินิจฉัยว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และพรรคก้าวไกล หาเสียงด้วยนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง พร้อมสั่งยุติการกระทำนั้น
ประเด็นที่ต้องจับตาต่อไป ซึ่งจะเป็นส่ิงที่พรรคก้าวไกลจะต้องเผชิญทางการเมืองและอาจส่งผลให้เกิดการยุบพรรคคือ
ฉากทัศน์แรก การนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาว่าผิดหรือไม่ ในวันนี้ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เตรียมยื่นเรื่องในเวลา 10.00 น. หากย้อนไป เรืองไกรเคยยื่นร้อง กกต. ให้ยุบพรรคก้าวไกลมาแล้วถึง 2 ครั้ง จากกรณีเสนอแก้มาตรา 112 แต่ขณะนั้น กกต. แจ้งว่าไม่เข้าเงื่อนไข จึงไม่สามารถดำเนินการได้
ล่าสุดเมื่อ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุชัดเจนว่า การแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงถือว่าเข้าเงื่อนไขตามมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เรื่องการกระทำล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ที่ กกต. จะต้องรับเรื่องไปพิจารณายุบพรรคก้าวไกล
มีโทษถึงยุบพรรค ตัดสิทธิ กก.บห. ตลอดชีวิต
หากชี้มูลว่าผิด กกต. จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย หากผลออกมาว่าผิดจริง มีโทษถึงยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคการเมืองตลอดชีวิต
โดยจะต้องพิจารณาว่า กก.บห. ชุดที่เข้าข่ายนั้น คือชุดที่อยู่ในช่วงเสนอแก้มาตรา 112 หรือชุดที่นำไปหาเสียงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งปี 2566 ที่ผ่านมา หรือทั้ง 2 ชุด 2 ช่วงที่เข้าข่าย แต่หากศาลเห็นว่าไม่ผิด ศาลก็ยกคำร้อง
ยื่น ป.ป.ช. เอาผิดจริยธรรมร้ายแรง 44 สส.
ฉากทัศน์ต่อมา คือการนำคำวินิจฉัยดังกล่าวไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดจริยธรรมร้ายแรง พิธา และ สส. ก้าวไกล จำนวน 44 คน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 219 วรรค 2 และมาตรา 235 ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ที่มีผลบังคับใช้กับ สส., สว. และรัฐมนตรีด้วยนั้น
ป.ป.ช. จะส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลฎีกาวินิจฉัย หากเห็นว่าฝ่าฝืนจริยธรรม มีโทษสูงสุด คือให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 10 ปี และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ซึ่งคล้ายกรณีของ พรรณิการ์ วานิช อดีต สส. บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่
สำหรับ สส. ก้าวไกลทั้ง 44 คน ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว ประกอบด้วย
- พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ สส. บัญชีรายชื่อ
- พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ สส. บัญชีรายชื่อ
- ธีรัจชัย พันธุมาศ สส. บัญชีรายชื่อ
- ญาณธิชา บัวเผื่อน สส. จันทบุรี
- ศิริกัญญา ตันสกุล สส. บัญชีรายชื่อ
- กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี สส. บัญชีรายชื่อ
- เบญจา แสงจันทร์ สส. บัญชีรายชื่อ
- พ.ต.ต. ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ สส. บัญชีรายชื่อ
- นิติพล ผิวเหมาะ สส. บัญชีรายชื่อ
- เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส. กทม.
- ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส. กทม.
- ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อ
- ปดิพัทธ์ สันติภาดา สส. พิษณุโลก
- อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล สส. บัญชีรายชื่อ
- ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส. บัญชีรายชื่อ
- ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ สส. บัญชีรายชื่อ
- ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส. บัญชีรายชื่อ
- ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. กทม.
- ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ สส. บัญชีรายชื่อ
- สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา สส. นครปฐม
- วรภพ วิริยะโรจน์ สส. บัญชีรายชื่อ
- คำพอง เทพาคำ สส. บัญชีรายชื่อ
- สมเกียรติ ถนอมสินธุ์ สส. กทม.
- ทองแดง เบ็ญจะปัก สส. สมุทรสาคร
- จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส. ฉะเชิงเทรา
- จรัส คุ้มไข่น้ำ สส. ชลบุรี
- สุเทพ อู่อ้น สส. บัญชีรายชื่อ
- ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส. บัญชีรายชื่อ
- อภิชาติ ศิริสุนทร สส. บัญชีรายชื่อ
- องค์การ ชัยบุตร สส. บัญชีรายชื่อ
- พล.ต.ต. สุพิศาล ภักดีนฤนาถ สส. บัญชีรายชื่อ
- ณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ สส. บัญชีรายชื่อ
- ศักดินัย นุ่มหนู สส. ตราด
- มานพ คีรีภูวดล สส. บัญชีรายชื่อ
- วาโย อัศวรุ่งเรือง สส. บัญชีรายชื่อ
- วรรณวิภา ไม้สน สส. บัญชีรายชื่อ
- วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ
- สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส. บัญชีรายชื่อ
- ทวีศักดิ์ ทักษิณ สส. บัญชีรายชื่อ
- สมชาย ฝั่งชลจิตร สส. บัญชีรายชื่อ
- สมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล สส. บัญชีรายชื่อ
- วุฒินันท์ บุญชู สส. สมุทรปราการ
- รังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ
- สุรวาท ทองบุ สส. บัญชีรายชื่อ