บริษัทสตาร์ทอัพด้านหุ่นยนต์ Figure ได้ลงนามใน ‘ข้อตกลงทางการค้า’ กับ BMW เพื่อนำหุ่นยนต์แบบมนุษย์ (Humanoid Robot) ที่มีหน้าที่ทั่วไปเข้าสู่โรงงานของ BMW ในสปาร์ตันเบิร์ก รัฐเซาท์แคโรไลนา เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการผลิตรถยนต์
หุ่นยนต์เหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อทำงานแบบอัตโนมัติทดแทนในสายการผลิตที่ ‘ยาก ไม่ปลอดภัย หรือซ้ำซาก’ และหากพบว่าเป็นไปได้ด้วยดี ก็จะถูกนำไปใช้งานในขั้นตอนการผลิตอื่นๆ ของ BMW ต่อไป
“หุ่นยนต์ที่มีหน้าที่เฉพาะทางได้เติบโตในตลาดเชิงพาณิชย์มาหลายทศวรรษ แต่ศักยภาพของหุ่นยนต์ที่มีหน้าที่ทั่วไปยังไม่ได้ถูกใช้งานอย่างเต็มที่” Brett Adcock ซีอีโอของ Figure กล่าว “หุ่นยนต์ของ Figure จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีความสม่ำเสมอมากขึ้น”
ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Honda และ Hyundai ได้มีการเปิดเผยการพัฒนาหุ่นยนต์ที่เดินได้เป็นเวลาหลายปี แต่การพยายามรวมเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริงกำลังเพิ่มขึ้น โดย Tesla ได้เปิดตัวหุ่นยนต์ Optimus รุ่นที่สองในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และ Amazon กำลังทดลองใช้หุ่นยนต์ Digit ของ Agility Robotics ในคลังสินค้าของพวกเขาในสหรัฐอเมริกา
โรงงานของ BMW ในรัฐเซาท์แคโรไลนา เป็นโรงงานเพียงแห่งเดียวของบริษัทในสหรัฐอเมริกา ที่นี่ประกอบรถยนต์ประมาณ 1,500 คันต่อวัน ประกอบไปด้วยรถยนต์ X-series และ XM-series และมีพนักงานประมาณ 11,000 คน
โรงงานแห่งนี้เป็นผู้ส่งออกรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาของ BMW (ในเชิงมูลค่า) โดยมีมูลค่าการส่งออกถึง 9.6 พันล้านดอลลาร์
ทั้งสองบริษัทยังไม่ได้เปิดเผยว่าจะมีหุ่นยนต์ของ Figure จำนวนเท่าไรที่จะถูกนำไปใช้งานที่โรงงาน หรืองานอะไรที่พวกเขาคาดหวังให้ทำ แต่ Adcock บอกกับ Reuters ว่า ความร่วมมือนี้จะเริ่มต้นด้วย ‘จำนวนเล็กน้อย’ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นหากบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพ
รายงานของ Reuters ยังให้กรอบเวลาที่ค่อนข้างกว้างสำหรับการนำไปใช้งาน เพื่อให้ Figure สามารถฝึกฝนหุ่นยนต์ในการทำงานที่เฉพาะเจาะจง โดยอาจใช้เวลาตั้งแต่ 12-24 เดือน กว่าที่จะถูกรวมเข้ากับกระบวนการผลิตของ BMW อย่างเต็มรูปแบบ
ภาพ: Courtesy of Figure
อ้างอิง: