เมื่อวานนี้ (16 มกราคม) ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองเลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่าง ลงนามโดย ‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประกาศ ณ วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2567 โดยมีประกาศ 2 ฉบับ
ฉบับที่ 1 เลื่อน ละออง ติยะไพรัช ขึ้นเป็น สส. แทน ประเสริฐ จันทรรวงทอง ที่ลาออก ส่วนฉบับที่ 2 เลื่อน ณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ขึ้นเป็น สส. แทน สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ลาออก ซึ่งเป็นสัดส่วน สส. บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด
ขณะที่วันนี้ (17 มกราคม) มีการประชุม สส. โดยในการประชุมมีวาระให้ สส. ใหม่ทั้ง 2 คนต้องปฏิญาณตนในสภาก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ โดยคำปฏิญาณมีเนื้อหาระบุว่า “ข้าพเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้ และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”
หลังการปฏิญาณถือว่าทั้งหมดเป็น สส. โดยสมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญแล้ว
ลาออก ‘เปิดทาง’ คนรุ่นใหม่
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะลาออกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย โดยมีเหตุผลว่า ต้องการเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ได้ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกับข้อตกลงที่บอกว่าเป็นรัฐมนตรีจะต้องลาออกจาก สส. เพียงแต่ในช่วงที่ผ่านมามีงานที่ต้องรับผิดชอบในกระทรวงและโครงการต่างๆ ที่ต้องผลักดันให้ประชาชน งานในการประชุมสภาจึงกลายเป็นอุปสรรคส่วนหนึ่ง คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ตนจะได้ทุ่มเททำงานให้กับกระทรวงคมนาคมอย่างเต็มที่
ขณะที่ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า เพื่อเปิดทางให้กับคนรุ่นใหม่ของพรรคได้เข้ามาทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร เพื่อขับเคลื่อนงานนิติบัญญัติและแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน อีกทั้งเมื่อตนมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก็พบว่ามีภาระงานหลายเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา พร้อมไปกับการยกระดับความสามารถด้านดิจิทัลของประเทศด้านต่างๆ ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง และจะต้องอาศัยการทำงานเชิงรุกอย่างมาก
แม้ขณะนี้หลายโครงการได้ริเริ่มดำเนินการแล้ว แต่ก็ยังต้องติดตามสานต่อโดยละเอียดเพื่อให้เป็นผลสำเร็จโดยเร็ว ดังนั้น จึงต้องการที่จะใช้ทุกสรรพกำลังผลักดันงานด้านดิจิทัลให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศโดยเร็วที่สุด
ประเสริฐกล่าวว่า ตนได้พิจารณาอย่างรอบคอบ รอบด้าน และเป็นความต้องการที่จะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ของพรรค จึงตัดสินใจที่จะลาออกจากตำแหน่ง สส. โดยเชื่อมั่นในความสามารถและศักยภาพของคนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทย ว่าจะสามารถผลักดันภารกิจด้านนิติบัญญัติเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างเต็มที่