วันนี้ (13 มกราคม) พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการปรับลดเกณฑ์อายุเด็กที่ก่ออาชญากรรมเพื่อให้มีการรับโทษทางอาญาว่า ปัจจุบันมีเด็กอายุน้อยเข้าไปเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุอาชญากรรม และพบว่ามีความรุนแรงมากขึ้น ส่วนตัวมองว่าสื่อต่างๆ ทั้งโซเชียลมีเดีย เกม และภาพยนตร์ที่ไม่ผ่านการคัดกรองมีอิทธิพลมากโดยที่เด็กไม่รู้ตัว
รวมทั้งที่มีกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้ไม่สามารถควบคุมสื่อต่างๆ เหล่านั้นได้ จากการก่อเหตุรุนแรงของเด็กที่เกิดขึ้นในไทย ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตั้งคณะทำงานศึกษาเรื่องอายุของผู้ก่อเหตุและสถิติการเกิดคดีย้อนหลัง 5-6 ปี เพื่อนำไปพิจารณาปรับเกณฑ์อายุของผู้ก่อเหตุที่เป็นเยาวชน
พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตั้งใจจะให้กระบวนการศึกษาแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 หรือ 3 ของปี ส่วนนโยบาย Quick Win ของ ตร. จะให้มีข้อสรุปภายใน 3 เดือนหลังจากนี้ เพื่อเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศาล อัยการ หน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อพิจารณาตกผลึกต่อไป และเนื่องจากบริบทและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศแตกต่างกัน จึงจำเป็นที่จะต้องปรับพิจารณาหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมกับประเทศไทยด้วย
ทั้งนี้การออกกฎหมายควรเป็นไปเพื่อควบคุมป้องกันการกระทำความผิด ดังนั้นในคดีสำคัญที่ศาลตัดสินถึงที่สุดแล้วจึงอยากให้มีการนำเสนอโทษที่ผู้ก่อเหตุได้รับ เพื่อการป้องกันไม่ให้เด็กที่ตั้งใจก่อเหตุไปลงมือกระทำความผิดซ้ำด้วย
พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ นัดชุมนุมในขณะนี้ว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 และดำเนินกิจกรรมตรงตามเวลาที่แจ้งไว้ และเจ้าหน้าที่ได้เตรียมแผนและมาตรการรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยตนมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่า หากมีการกระทำที่ละเมิดกฎหมาย ให้เน้นเจรจาพูดคุยก่อน การจะใช้กำลังดำเนินการต้องมีลำดับขั้นตอน และเป็นขั้นตอนสุดท้ายจริงๆ พร้อมยืนยันว่าการแสดงออกทางการเมืองสามารถกระทำได้ สอดคล้องกับคำขวัญวันเด็กของเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่มีข้อความตอนหนึ่งระบุว่าเคารพในความเห็นต่าง