การเป็น ‘ซีอีโอ’ เป็น ‘งานที่ยากลำบาก และยากขึ้นเรื่อยๆ’ ตามที่บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการ McKinsey กล่าว เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม่ทัพเหล่านี้ต้องเผชิญกับการเกิดโรคระบาดไปทั่วโลก ห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงัก สงคราม อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง และความท้าทายอื่นๆ
เมื่อโลกซับซ้อนและเร่งรีบขึ้น ตัวซีอีโอต้องเผชิญกับความท้าทายและโอกาสมากมายในการนำธุรกิจเข้าสู่ปี 2024 ทาง McKinsey จึงได้ระบุสิ่งที่ซีอีโอควรโฟกัสในปีหน้า โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยี ความยั่งยืน และการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ
1. การใช้ประโยชน์จาก Generative AI
คงไม่น่าแปลกใจเลยที่ Generative AI ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับโลกนับตั้งแต่เปิดตัว ChatGPT นั้น เป็นสิ่งที่อยู่ในใจเสมอ ในปีที่ผ่านมามีกระแสฮือฮามากมายเกี่ยวกับนวัตกรรมดังกล่าว ซีอีโอจึงได้รับคำแนะนำให้บูรณาการ Generative AI เข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจของพวกเขา เป้าหมายคือการขยายการใช้งานและปลดล็อกศักยภาพของธุรกิจ ซึ่งประมาณการว่า Generative AI จะสามารถเพิ่มเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ให้กับเศรษฐกิจต่อปี
2. การเป็น ‘ผู้นำทางดิจิทัล’ ไม่ใช่ ‘ผู้ล้าหลังทางดิจิทัล’
ในยุคของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล บริษัทไม่เพียงแค่รับเทคโนโลยีใหม่เท่านั้น แต่ต้องใช้ประโยชน์จากมันอย่างเต็มที่ การเป็นผู้นำดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จต้องการการลงทุนที่เวลาและทรัพยากรอย่างจริงจัง เพราะ McKinsey หลังการใช้กลยุทธ์ ‘Digital Transformation’ มีบริษัทน้อยกว่า 1 ใน 3 ที่เห็นผลจริงๆ
3. การลงทุนในความยั่งยืน
เนื่องจากโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ธุรกิจจึงได้รับการกระตุ้นให้สนับสนุน Net-Zero Economy ซึ่งรวมถึงการสร้างธุรกิจเทคโนโลยีสีเขียวใหม่ๆ และการปรับปรุงการปฏิบัติที่ยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมานั้นนักลงทุน ‘ระงับการใช้เงินทุนของตน’ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ จึงต้องเปลี่ยนความคิดนี้
4. ค้นหา ‘พลังเฉพาะตัว’
ในตลาดที่แข่งขันสูง บริษัทควรระบุและมุ่งเน้นไปที่จุดเด่นที่สร้างความแตกต่างให้กับตัวเองเหนือคู่แข่ง อย่างเช่น LVMH ที่เน้นสินค้าหรูหราคุณภาพสูง หรือประสบการณ์ลูกค้าที่เปี่ยมด้วยจินตนาการของ Disney
5. ให้ความสำคัญกับผู้จัดการระดับกลาง
แม้ Mark Zuckerberg ผู้เป็นซีอีโอของ Meta จะออกมาบอกว่าบริษัทของเขานั้นมีตำแหน่ง ‘ผู้จัดการ’ มากเกินไป จนประกาศจัดโครงสร้างและปลดออกจำนวนมาก แต่สำหรับ McKinsey ‘ผู้จัดการระดับกลาง’ นี่แหละมีความสำคัญกับความสำเร็จขององค์กร โดยทำหน้าที่เชื่อมโยงส่วนต่างๆ ขององค์กรเข้าด้วยกัน เพื่อทำงานให้ราบรื่น
6. การวางแผนสำหรับภูมิรัฐศาสตร์ที่คาดเดาไม่ได้
แม้ยากที่จะเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์สำคัญระดับโลก แต่ข้อเสนอแนะประการหนึ่งคือ บริษัทต่างๆ ควรเตรียมแผนสำหรับรับมือใน 3 สถานการณ์ ได้แก่ Black Swans (เหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้และมีผลกระทบสูง เช่น การรุกรานยูเครนของรัสเซีย), Gray Rhinos (เหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นและมีผลกระทบสูง เช่น ความเสี่ยงที่จะเพิ่มความขัดแย้งในระดับภูมิภาค), และ Silver Linings (ช่องทางที่บริษัทสามารถใช้เพื่อยกระดับความได้เปรียบทางการแข่งขัน)
7. การโฟกัสกลยุทธ์เพื่อการเติบโต
เป็นหน้าที่ของซีอีโอในการปรับปรุงธุรกิจ แต่ในช่วงทศวรรษก่อนเกิดโรคระบาด บริษัททั่วไปเติบโตในอัตราเพียงต่ำกว่า 3% และมีเพียง 1 ใน 8 เท่านั้นที่มีอัตราการเติบโตมากกว่า 10% ต่อปี McKinsey กล่าว พร้อมกับแนะนำให้มุ่งเน้นไปที่ขั้นตอนต่างๆ รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญของตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และในทางกลับกัน การรู้ว่าบางครั้งคุณต้องลดขนาดองค์กรลงเพื่อให้บรรลุการเติบโตในระยะยาวก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน
8. การยอมรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาค
“เกือบ 4 ปีหลังจากวิกฤตโควิดเข้าพลิกประวัติศาสตร์ ซีอีโอบางคนยังคงรอความแน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในเร็ววันนี้” McKinsey กล่าว ดังนั้น บริษัทต่างๆ ควรยอมรับและปรับตัวเข้ากับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาคที่กำลังดำเนินอยู่ โดยการวางแผนสำหรับสถานการณ์ต่างๆ และคว้าโอกาสในการลงทุน
อ้างอิง: