วันนี้ (7 ธันวาคม) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ ไบร์ท-ชินวัตร จันทร์กระจ่าง นักกิจกรรมทางการเมืองวัย 31 ปี ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีปราศรัยเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้ บุ้ง-เนติพร เสน่ห์สังคม, ใบปอ-ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565
คดีนี้ อานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.ยานนาวา กล่าวหาจากถ้อยคำที่ชินวัตรได้กล่าวปราศรัยในวันดังกล่าว
หลังอัยการสั่งฟ้องคดีและถึงนัดสืบพยานนัดแรก ชินวัตรตัดสินใจกลับคำให้การเป็นรับสารภาพตามฟ้อง และได้จัดทำคำแถลงประกอบคำรับสารภาพยื่นประกอบ ศาลจึงได้สั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยเพื่อประกอบการพิจารณาพิพากษาด้วย ก่อนนัดฟังคำพิพากษาเป็นวันนี้
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานด้วยว่า ศาลได้อ่านพิพากษาโดยสรุปแต่เพียงสั้นๆ ว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่าในคดีนี้จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดกรรมเดียว แต่ผิดหลายบท ให้ลงโทษตามกฎหมายมาตรา 112 ที่มีโทษหนักสุด พิพากษาจำคุก 3 ปี และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 200 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 100 บาท
“เห็นว่าเนื่องจากไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน อีกทั้งในคำประกอบคำให้การรับสารภาพจำเลยระบุว่าตนกลับใจแล้ว อยู่ในวิสัยที่จะกลับตัวเป็นคนดีได้ รวมถึงจำเลยยังได้เข้าร่วมกิจกรรมบริการทางสังคมต่างๆ หากคุมประพฤติจะเป็นผลดีกับจำเลยมากกว่า
“โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี คุมประพฤติจำเลย 2 ปี และให้จำเลยไปรายงานต่อพนักงานคุมประพฤติปีละ 3 ครั้ง บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง ให้จำเลยงดเว้นกิจกรรมที่มีลักษณะเดียวกับการกระทำผิดนี้อีก ในส่วนเรื่องอัยการขอนับโทษต่อ ศาลยกคำร้อง เนื่องจากจำเลยยังไม่เคยถูกพิพากษาในคดีใดมาก่อน” คำพิพากษาระบุ
สำหรับคดีนี้รับเป็นคดีตามประมวลกฎหมายมาตรา 112 คดีแรกที่ชินวัตรถูกกล่าวหาและมีคำพิพากษาของศาล โดยในชั้นสอบสวน หลังถูกจับกุม ชินวัตรเคยถูกคุมขังเป็นระยะเวลาทั้งหมด 26 วัน ก่อนศาลอุทธรณ์จะอนุญาตให้ประกันตัว
ข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า ชินวัตรถูกกล่าวหาในคดีมาตรา 112 ทั้งหมด 7 คดี ขณะนี้อยู่ในชั้นศาลแล้ว 6 คดี โดยมีคดีจากการปราศรัยในการชุมนุม 2 ธันวาคม ไปห้าแยกลาดพร้าว เมื่อปี 2563 ที่ชินวัตรขอถอนคำให้การเดิม และให้การรับสารภาพตามฟ้องเช่นกัน ทำให้ศาลอาญากำหนดนัดฟังคำพิพากษาเฉพาะกรณีของชินวัตร ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้
อ้างอิง:
- ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน https://tlhr2014.com/archives/62075