วันนี้ (7 ธันวาคม) ที่โรงแรมเดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ วันที่สองของการสัมมนาพรรคเพื่อไทย เป็นการบรรยายสรุปกิจกรรมให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกพรรครับฟัง ก่อนจะบรรยายในหัวข้อ ‘ถอดบทเรียนเพื่อไทยผ่านวิกฤตเลือกตั้ง’ โดย ดร.กฤดิกร วงศ์สว่างพานิช เพื่อจัดวางจังหวะก้าวในการขับเคลื่อนและสร้างโอกาสให้พรรคเพื่อไทยพลิกฟื้นกลับมาได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นอันดับ 1 อีกครั้ง
จากนั้น แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปิดการสัมมนาว่า การมาครั้งนี้ทำให้อบอุ่นขึ้น ใกล้ชิดขึ้น บางคนอยากให้จัดแบบนี้ทุกเดือนแต่ก็คงยาก อาจจะเป็นการจัดทุกปี ซึ่งวานนี้ได้มีการระดมสมองจากพรรคเพื่อไทยว่าอีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
แพทองธารกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีดีเอ็นเอมาจากพรรคไทยรักไทย อิ๊งก็เป็นดีเอ็นเอมาจากผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย แต่ดีเอ็นเอที่พูดถึงไม่ได้หมายความถึงสายเลือดหรือตระกูล แต่หมายความถึงจุดรวมของพวกเราว่า เราเป็นพรรคการเมืองที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็นพรรคการเมืองที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เป็นพรรคการเมืองที่อยากทำให้ประชาชนมีความผาสุกเน้นเรื่องเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ ปากท้อง มากกว่าการที่จะสร้างวาทกรรมทางการเมือง
‘ตระกูลชินวัตร’ ไม่ใช่เจ้าของพรรค
แพทองธารกล่าวว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมี เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และสร้างผลงานอย่างรวดเร็ว รวมถึงรัฐมนตรีก็ช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ ตนขออัญเชิญพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงตรัสไว้เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมาถึงคนรุ่นใหม่ว่า “ทุกคนในที่นี้และตัวพระองค์เองก็เคยเป็นคนรุ่นใหม่มาแล้วทั้งนั้น” ประโยคนี้สั้นๆ แต่ลึกซึ้งและมีความหมายมาก ซึ่งแปลว่าคนรุ่นเก่าก็เคยเป็นคนรุ่นใหม่มาก่อน แต่เราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร และมีความคิดที่จะช่วยรักษาพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า ทั้งรุ่นเก๋าและรุ่นใหม่จะต้องอัปเดตความรู้ สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ปรึกษากันซึ่งกันและกัน รวมถึงต้องมีการติดตามเทคโนโลยีเพื่อให้วัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก๋าเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและเกิดประโยชน์แก่ประชาชน ทำให้เสาหลักของทางเราทั้ง 3 ขาคือ รัฐบาล พรรค และ สส. ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รับฟังเสียงประชาชน และทำงานให้อยู่ในระบบดิจิทัลทั้งหมด และใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อสื่อสารกับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้เรากำลังทำระบบเครือข่ายครอบครัวเพื่อไทยให้พี่น้องสามารถเข้าใกล้เรา เข้าใจการเมือง เข้าใจการสื่อสารของการทำงานของ สส. ทุกท่าน และนำ Think Tank กลับมาใหม่ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ อยากให้เราได้ทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นบทเรียนต่อไป
“ครอบครัวของอิ๊งไม่ใช่เจ้าของพรรคเพื่อไทย แต่เราทุกคนคือเจ้าของพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของผู้นำที่เก่งไม่ว่าจะเป็นท่านทักษิณ ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ท่านนายกฯ เศรษฐา จะทำสำเร็จไม่ได้เลย ถ้าไม่มีทีมที่สมบูรณ์ ทีมที่เก่ง ทีมที่คอยบอกว่าสิ่งนี้ดีแล้ว สิ่งนี้ยังต้องเพิ่มเติม การนำของผู้นำที่ดีต้องมีผู้ตามที่เป็นห่วง ที่แข็งแรงเหมือนพรรคเพื่อไทย ถึงจะทำให้การนำที่ดีสำเร็จได้” แพทองธารกล่าว
สร้างความแข็งแรงไปด้วยกัน
แพทองธารกล่าวอีกว่า อยากจะบอกว่า 20 ปีที่ผ่านมาความสำเร็จทุกอย่างเป็นความสำเร็จของทุกคน พรรคเพื่อไทยคือบ้านของเรา ทั้ง สส.เก่า และ สส.ใหม่ นี่คือบ้านของเรา ต่อจากนี้เราจะมาสร้างบ้านหลังนี้ให้แข็งแรงไปด้วยกัน ให้พร้อมที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชนไปด้วยกัน มีอะไรขอให้ปรึกษากัน ให้กำลังใจกัน มีวันที่ทุกข์แน่นอน แต่วันที่สุขก็ต้องมาอย่างแน่นอนเช่นกัน
